
แจงหมุดปักเขตแดนหายไม่เกี่ยวทหารไม่เสียแดน
แม่ทัพภาค 2 ชี้แจงหมุดปักเขตแดนหายเป็นหมุดจีพีเอสเดิมที่ "วีระ สมความคิด" นำพวกขุดไปตั้งแต่ 30 เม.ย. ไม่ใช่ฝีมือทหาร เผยกองทัพแจงความเอาผิดแล้ว พร้อมระบุเป็นเพียงหมุดจีพีเอสเพื่องานแผนที่เท่านั้นไม่ใช่หลักเขตแดนแบ่งประเทศ ยืนยันไทยไม่เสียแผ่นดินแม้ตารางนิ
(6ก.ค.) พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาชี้แจงกรณีที่กลุ่มกลุ่มเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่, ภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร และสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้นำหลักจีพีเอส ออกจากพื้นที่เดิมที่เคยมีการปักไว้บนสันเขื่อนห้วยเมฆา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จนอาจจะเป็นเหตุนำไปสู่การสูญเสียดินแดนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 1.5 ล้านไร่ให้แก่ทางกัมพูชาเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ข้อเท็จจริงส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่าจะมีการเข้าใจผิด
ทั้งนี้ยืนยันว่าทหารไม่ได้เป็นผู้ถอนหมุดหลักจีพีเอสดังกล่าวออกจากพื้นที่ แต่ที่หายไปเป็นฝีมือของ นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น ที่นำสมาชิกประมาณ 100 คน ไปรื้อถอนออกมาจากสันเขื่อนห้วยเมฆา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา แล้วนำไปเก็บไว้ที่เมฆาอโศก ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายแล้ว
โดยหมุดหลักดังกล่าว เป็นหมุดหลักโครงข่ายจีพีเอส ที่ทางคณะกรรมการปักปันเขตแดน กรมแผนที่ทหาร ได้ทำการปักขึ้น ซึ่งก็จะมีทั้งในฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายไทยจะมีอยู่ 2 แห่ง คือที่ จ.สระแก้ว ส่วนฝ่ายกัมพูชาก็จะอยู่ที่ "ปันเตียเมียงเจย" และอีกแห่งของไทยอยู่ที่สันเขื่อนเมฆา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่วนฝ่ายกัมพูชาจะอยู่ที่ "บ้านนำปึน" ซึ่งหมุดหลัก จีพีเอสทั้ง 4 จุด คือในฝ่ายไทย 2 จุด และฝ่ายกัมพูชา 2 จุด เป็นหมุดหลักจีพีเอสที่ใช้สำหรับการขยายงานโครงข่ายงานแผนที่ของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเชื่อมโยงไปยังแนวเขตแดน ไทย-กัมพูชาที่กำลังมีปัญหาพิพาทกันอยู่ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาตกลงเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนต่อไปในอนาคต
หมุดหลักทั้งหมดก็จะเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความชัดเจนเรื่องเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ ไม่ได้ปักเข้ามาในพื้นที่พิพาทแต่อย่างใด และไม่ได้มีการยึดถือหมุดหลักจีพีเอสเป็นหมุดหลัก หรือใช้เป็นการปักปันแนวเขตแดน เป็นเพียงหมุดหลักที่ใช้ในการประกอบการพิจารณาด้านแผนที่เพื่อนำไปใช้ประกอบในการพิจารณาปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชาต่อไปเท่านั้น
ส่วนกรณีการที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่า ขณะนี้หมู่บ้านบางหมู่บ้านซึ่งเคยอยู่ในแผ่นดินไทยมาโดยถูกทางการไทยสั่งย้ายให้เคลื่อนมาอยู่ในแดนไทยใหม่ และต้องเสียพื้นที่หมู่บ้านของไทยลงไปนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการขยับหรือย้ายหมู่บ้านใดๆ ออกจากพื้นที่ตามที่ได้มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งในส่วนของพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ หรือแม้แต่อุบลราชธานี ก็ยังไม่มีหมู่บ้านใดที่ย้ายออกมาจากเส้นเขตแดนทั้งสิ้น เพราะหมู่บ้านของประชาชนไทยที่อยู่ตามแนวเขตแดนไม่ได้อยู่บนเส้นเขตแดนหรือรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่พิพาทอยู่แล้ว และส่วนใหญ่จะอยู่ห่างชายแดนลงมาในพื้นที่ที่เป็นเขตประเทศไทยชัดเจน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการอพยพหรือให้ย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งตนเองขอยืนยันในเรื่องนี้
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวย้ำว่า ในฐานะที่เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันเพื่อให้ประชาชนคนไทยสบายใจได้ว่า จนถึงวันนี้ประเทศไทยไม่ได้มีการสูญเสียประเทศไปให้ทางกัมพูชาแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และทางกองทัพยังคงทำหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ประเทศอื่นเข้ามายึดครองแผ่นดินที่เป็นของไทยได้อย่างแน่นอน