ข่าว

ทุ่ม 100 ล.สร้างศูนย์การเรียนรู้
ทม.ท่าโขลง เพิ่มศักยภาพการศึกษาให้เยาวชน

ทุ่ม 100 ล.สร้างศูนย์การเรียนรู้ ทม.ท่าโขลง เพิ่มศักยภาพการศึกษาให้เยาวชน

24 มิ.ย. 2553

ปทุมธานี - ทม.ท่าโขลงทุ่มงบเกือบ 100 ล้าน เนรมิตศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยเป็นแห่งแรกของปทุมธานี

  นายยงยุทธ วิรางกูล นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง กล่าวว่า เทศบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนมาโดยตลอด เริ่มจากการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและพัฒนาการเรียนการสอนจนได้รับรางวัลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กระดับประเทศ นอกจากนี้ยังเล็งเห็นถึงการพัฒนาการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง จึงก่อตั้งโรงเรียนเทศบาลท่าโขลง 1 ขึ้นมาเพื่อรองรับนักเรียนจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วย ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญเรื่องการเรียนแล้ว โรงเรียนของเทศบาลยังมุ่งเน้นการปลูกฝังจริยธรรมให้เด็กนักเรียน จะเห็นได้จากปีที่ผ่านมานักเรียนของโรงเรียนเทศบาลท่าโขลง 1 สามารถสอบนักธรรมตรี โท เอกได้รวมกว่า 200 คน

 ล่าสุดเทศบาลเมืองท่าโขลงต่อยอดการเรียนรู้ดังกล่าวเพื่อเพิ่มศักยภาพทางด้านการศึกษาให้เยาวชน จึงเปิดศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ มูลค่ากว่า 90 ล้านบาท โดยจัดสรรพื้นที่ออกเป็นส่วนของอาคารเรียนรู้ อาคารผู้สูงอายุ พื้นที่สวนสาธารณะ และสนามกีฬา

 "ในส่วนของอาคารเรียนรู้นั้นแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องอ่านเงียบเสือดาว ห้องอนุบาลนิ่ม ห้องแสดงนิทรรศการ ห้องสมุดดิจิทัล ห้องมินิเธียเตอร์นกฮูก ส่วนพื้นที่สาธารณะและสนามกีฬาจะพรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับเสริมสร้างสุขภาพ เช่น ลานกีฬา สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกาย ลู่วิ่งรอบสวนสาธารณะ เป็นต้น โดยมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวท่าโขลงให้มีพัฒนาการทั้งด้านสติปัญญา จินตนาการและสุขภาพควบคู่กันไป"

 นายยงยุทธ กล่าวว่า เทศบาลยังแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นสโมสรผู้สูงอายุ เพื่อที่ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่มีกิจกรรมทำร่วมกัน และมีเวทีให้ผู้สูงอายุได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตให้เยาวชนได้รับฟัง เพื่อเป็นการสืบทอดแนวความคิด รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น ให้ไม่มีวันหายไปจากสังคมเมืองท่าโขลง

 "ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จัดว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งแรกของ จ.ปทุมธานี ที่มีขนาดใหญ่และพรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์สำหรับการพัฒนาศักยภาพทั้งร่างกายและสติปัญญา โดยเทศบาลเมืองท่าโขลง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าศูนย์การเรียนรู้และสวนสาธารณะแห่งนี้จะเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ที่จะเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยให้สมบูรณ์แข็งแรงทั้งกายและสติปัญญา ขณะเดียวกันก็จะเป็นแหล่งสร้างทรัพยากรบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพออกสู่สังคม เพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป" นายยงยุทธ กล่าว