ท่าน้ำราชวงศ์ จุดกำเนิดชาวจีนบนแผ่นดินไทย | คมชัดลึก

 มีท่าน้ำราชวงศ์เป็นท่าเรือสำคัญ ที่เรือบรรทุกสินค้าและเรือโดยสาร ที่เดินทางมาจากทั่วโลก ต้องแวะจอดขนส่งสินค้า และรับ-ส่งผู้โดยสารที่ท่าน้ำแห่งนี้ ท่าน้ำราชวงศ์ จึงเป็นท่าเรือที่ชาวต่างชาติเดินเรือมาติดต่อค้าขายกับสยาม ต้องนำเรือขนส่งสินค้ามาเทียบท่าที่นี่ และลูกท่านหลานเธอที่จะเดินทางไปศึกษาต่างประเทศ จะมาลงเรือโดยสารที่ท่าน้ำราชวงศ์ เพื่อเดินทางไปยุโรป

 ที่สำคัญ คือ ท่าน้ำราชวงศ์ เป็นท่าเรือที่เรือโดยสารจากเมืองซัวเถา ประเทศจีน ขนผู้โดยสารชาวจีนที่หนีความทุกข์ยากจากแผ่นดินแม่ มาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารบนแผ่นดินไทย เมื่อเรือแล่นผ่านปากน้ำสมุทรปราการ ชาวจีนเห็นต้นมะพร้าวและต้นจากขึ้นแน่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่างมีความหวังว่าชีวิตนี้ไม่อดตายแน่นอนแล้ว
 
 หนุ่มชาวจีน เสือผืนหมอนใบ หลายร้อยหลายพันคน ได้เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นกุลีแบกสินค้าขึ้น-ลงเรือที่ท่าน้ำราชวงศ์ หลายคนเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีบนแผ่นดินไทย และที่ท่าน้ำราชวงศ์แห่งนี้แหละ เป็นจุดกำเนิดร้านค้าเล็กๆ ที่เป็นบริษัทใหญ่ข้ามชาติ กลับไปค้าขายกับแผ่นดินแม่ที่เมืองจีน

 ร้านเจียไต๋ขายเมล็ดพืชของเจี่ยเอ็กชอ เป็นต้นกำเนิดของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี และบริษัทในปัจจุบันนี้ ร้านขายสบู่ยาสีฟันเล็กๆ ชื่อเฮียบเซ่งเชียง ของนายเทียม โชควัฒนา กลายเป็นบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ที่ทำให้เปาบุ้นจิ้น และมาม่า เป็นสินค้าที่คนไทยรู้จัก ใช้กันเป็นประจำ และส่งขายทั่วโลก

 ท่าน้ำราชวงศ์ยังเป็นแหล่งกำเนิดร้านอาหารจีนอร่อยๆ จนเป็นต้นตำรับมาถึงปัจจุบันนี้ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หูฉลามน้ำแดง เป็ดพะโล้ ห่านพะโล้ และเป็นต้นกำเนิดภัตตาคารจีนที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน

วัฒนาพานิช ต้นตำรับเนื้อตุ๋น แพะตุ๋น
 55 ปีที่แล้ว เฮียทวี กวีนันทวงศ์ เปิดแผงลอยเล็กๆ ขายเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น อยู่ที่ถนนริมท่าน้ำราชวงศ์ เนื้อตุ๋นสูตรของเฮียทวี ต้องเคี่ยวเนื้อสามชั้นและเอ็นวัว กับเครื่องเทศยาจีนและพริกไทยเม็ด ข้ามวันข้ามคืน เพื่อให้เครื่องเทศพริกไทยดับกลิ่นคาวเนื้อวัว และทำให้น้ำซุปเคี่ยวเนื้อ-เอ็นวัว มีกลิ่นหอม

 ทุกวันนี้ เฮียทวี ต้องเดินข้ามถนนเยาวราช เข้าเล่งบ๊วยเอี้ยฮั่ง (ตรอกอิสรานุภาพ) เพื่อไปสั่งซื้อพริกไทยเม็ด อบเชย โป๊ยกั๊ก ชวนเจีย หญ้าหอม จากร้านง่วนสูน พริกไทยตรามือ จนคุ้นเคยกับ เฮียอาจจิตต์ ลิ้มประนะ เถ้าแก่ร้านง่วนสูนพริกไทย ตรามือ ซื้อเครื่องเทศกันนานกว่า 50 ปี จนทั้งสองเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี

 เมื่อเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น ขายดีจนไม่มีโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่ง เฮียทวี ไปเซ้งร้านที่ย่านยมราช ซึ่งเป็นย่านการค้าสมัยใหม่เมื่อ 40 ปีก่อน มีโรงหนังโคลีเซียมเป็นศูนย์กลางการค้า ที่ยมราชนี่เองทำให้นักกินที่ชอบเนื้อตุ๋น รู้จัก ร้านวัฒนาพานิช ว่า เป็นร้านที่ขายเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น อร่อยที่สุดในสมัยนั้น

 คนงานลูกน้องที่เคยลวกก๋วยเตี๋ยว ช่วยเฮียทวีต้มเนื้อตุ๋นหลายคน ออกไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ แต่รสชาติเนื้อตุ๋นก็ยังอร่อยสู้สูตรเนื้อตุ๋นของเฮียทวีไม่ได้ เมื่อย่านยมราชถูกเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางด่วน ร้านวัฒนาพานิชเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น จึงต้องย้ายร้านไปอยู่ที่ซอยเอกมัยจนถึงทุกวันนี้

 จึงเป็นโอกาสให้ผมได้แวะไปกินเกาเหลาเนื้อตุ๋น ที่ร้านวัฒนาพานิชซึ่งอยู่ใกล้บ้านเป็นประจำ ทุกวันนี้ คุณวรเดช กวีนันทวงศ์ ลูกชาย เฮียทวี เป็นผู้ดูแลกิจการแทนเตี่ย สูตรลับการต้มเคี่ยวเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น ยังคงความอร่อยเหมือนที่เตี่ยทำขายที่ท่าน้ำราชวงศ์ แต่คุณวรเดชเสริมอาหารให้ลูกค้ามากขึ้น

 เนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น สูตรดั่งเดิม เหยาะพริกไทยป่นตรามือ ไม่ต้องใส่พริกน้ำส้ม หรือเครื่องปรุงใดๆ ก็เผ็ดอร่อยแล้ว ยังมี ข้าวหน้าไก่ สุกียากี้ เนื้อ ไก่ หมู และซีฟู้ด ให้เลือกกินอีกด้วย ทำให้ร้านวัฒนาพานิชเนื้อตุ๋น-แพะตุ๋น มีลูกค้าคนรุ่นใหม่ไปกินจนแน่นทุกวัน

 ทุกวันนี้ คุณวรเดช ส่งน้องๆ ขยายสาขาร้านวัฒนาพานิช ไปเปิดที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข และหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทุกร้านต้องมีกระทะใบใหญ่เคี่ยวน้ำซุปเนื้อตุ๋น ให้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งชวนกิน ซึ่ง คุณวรเดช ยอมเปิดเผยเคล็ดลับกับผมว่า ต้องใช้เอ็นวัวจำนวนมากๆ เพื่อเคี่ยวให้เอ็นวัวเปื่อยจนได้ความเหนียวหนึบ ซึมกระจายอยู่ในน้ำซุป

 น้ำซุปเนื้อตุ๋นวัฒนาพานิชจึงเข้มข้นเหนียวหนึบ ส่งกลิ่นหอมพริกไทย และเครื่องเทศยาจีน ราดข้าวสวยร้อนๆ จะได้รสชาติความเผ็ดอร่อย กินแล้วชื่นใจ ร้านวัฒนาพานิชมีที่จอดรถในซอยข้างร้าน และฝั่งตรงข้าม จึงสะดวกสำหรับผมที่กินเนื้อตุ๋นเสร็จ ขับรถไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา กลับบ้านสะพานใหม่สบายๆ ร้านวัฒนาพานิช (เอกมัย) โทร.0-2391-7264

"อ.ไชยแสง กิระชัยวนิช"