ข่าว

พบนักเที่ยวเขาใหญ่แหย่จระเข้2ตัวเกรงอันตราย

พบนักเที่ยวเขาใหญ่แหย่จระเข้2ตัวเกรงอันตราย

16 มิ.ย. 2553

พบพฤติกรรมนักเที่ยวเขาใหญ่ แหย่จระเข้ 2 ตัวเกรงอันตรายเตรียมปิดเส้นทางเดินป่าผากล้วยไม้

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งมาจากนายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่ามีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ลงไปดูจระเข้ที่บริเวณผากล้วยไม้ ซึ่งมีขนาดประมาณ 2 เมตร และอาศัยในลำห้วยลำตะคองนั้น ขณะนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวบางคน มักจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คือชอบยั่วแหย่จระเข้ โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดอันตราย แต่คิดแต่ความสนุกสนานคึกคะนองเฉพาะหน้า ตอนนี้ได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำในจุดดังกล่าว เพื่อคอยดูนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงไปแหย่จระเข้ และหากยังมีการแหย่อีก อาจจะต้องพิจารณาปิดพื้นที่เพื่อป้องกันอันตราย

 นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า เดิมทางกรมอุทยานฯ มีแผนที่จะนำจระเข้ ไปปล่อย เนื่องจากเป็นสัตว์ต่างถิ่น แต่ขณะนี้ได้ล้มความตั้งใจดังกล่าวแล้ว เนื่องจากจระเข้ปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ได้ดี และไม่ได้สร้างอันตรายให้สิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวที่เขาใหญ่และลงไปดูจระเข้ที่มีอย่างต่อเนื่อง แม้จะผ่านมาเป็นปีๆแล้วหลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป

 “ นักท่องเที่ยวหลายคน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คือ ชอบเอาเท้าแหย่ลงไปในน้ำเพื่อยั่วจระเข้ ให้ปรากฏตัว และเมื่อปรากฏตัวแล้ว ก็จะใช้ไม้ตีน้ำเ พื่อเรียกจระเข้ให้ว่ายน้ำเข้ามาหา แล้ววิ่งหนี หรือบางรายที่ใจกล้าก็ใช้ก็ใช้ไม้ตีหัว แล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน พฤติกรรมดังกล่าว ถือว่าอันตรายอย่างมาก เพราะจระเข้เป็นสัตว์ที่ดุร้าย แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีพฤติกรรมในการทำร้ายคนก็ตาม แต่ในอนาคตเกรงว่าอาจจะมีนักท่องเที่ยวถูกจระเข้งับขาขาด หรือถูกจระเข้ทำร้ายบาดเจ็บได้ เพราะบริเวณที่จระเข้อยู่นั้นเป็นป่ารก มีหนองน้ำ ยากต่อการวิ่งหนี ” นายมาโนช กล่าว

 นายมาโนช กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้แจ้งเรื่องนี้ให้อธิบดีกรมอุทยานฯทราบ รวมทั้งหารือร่วมกันแล้วได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า หากนักท่องเที่ยวยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะต้องปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผากล้วยไม้บริเวณที่จระเข้อาศัยอยู่ชั่วคราว เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้