ข่าว

ค้านจว.ยึดศาลากลางเก่า 
ชาวเพชรบูรณ์ หวั่นกระทบแผน ทม.ทำเป็นพิพิธภัณฑ์

ค้านจว.ยึดศาลากลางเก่า ชาวเพชรบูรณ์ หวั่นกระทบแผน ทม.ทำเป็นพิพิธภัณฑ์

09 มิ.ย. 2553

เพชรบูรณ์ - ชาวเพชรบูรณ์ค้านผู้ว่าฯ กลับลำยึดศาลากลางหลังเก่า ไม่ยอมยกให้เทศบาลจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือไปยังส่วนราชการต่างๆ เพื่อจัดสรรพื้นที่ตั้งสำนักงานให้ส่วนราชการต่างๆ ทั้งศาลากลางจังหวัดทั้งหลังเก่าและใหม่ พร้อมแจ้งแนวทางการเข้าใช้พื้นที่ศาลากลางหลังเก่าที่ได้รับการจัดสรรจากทางจังหวัดด้วยว่า ต้องให้ส่วนราชการเดิมย้ายสำนักงานไปตั้งในอาคารศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ก่อน หรือหลังก่อสร้างแล้วเสร็จในราวเดือนกันยายน 2553 นี้

 แต่ปรากฏว่า หลังจากชาว จ.เพชรบูรณ์ ได้รับทราบข่าว ต่างแสดงความไม่พอใจกับการดำเนินการของจังหวัด พร้อมทั้งเตรียมเคลื่อนไหวต่อต้านและคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ได้ทำเรื่องขอศาลากลางจังหวัดหลังเก่าจากกระทรวงมหาดไทย เพื่อเตรียมจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อนายธวัชชัยโยกย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ กลับมีท่าทีเปลี่ยนไป จะไม่ส่งมอบศาลากลางหลังเก่าให้

 ล่าสุดได้มีส่วนราชการต่างๆ แจ้งขอเข้าใช้ศาลากลางหลังเก่ากันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ยังมีส่วนราชการเดิมไม่ต้องการย้ายไปอยู่ในศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่ โดยอ้างว่าศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่อยู่ห่างไกลชุมชน

  นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เป็นเจตนารมณ์ของชาวเพชรบูรณ์ที่ต้องการเห็นศาลากลางหลังเก่าซึ่งอาคารประวัติศาสตร์หลังนี้ยืนหยัดคู่กับเมืองเพชรบูรณ์ต่อไปอย่างสง่างาม จึงได้มีแผนเตรียมปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองเพชรบูรณ์ โดยได้ทำเรื่องขอใช้ไปยังกระทรวงมหาดไทย ก็ได้รับความเห็นชอบว่าหลังเปิดใช้ศาลากลางหลังใหม่แล้วก็ให้เทศบาลดำเนินการจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ต่อไป จึงมีการประกาศต่อสาธารณชนคนเพชรบูรณ์ โดยทุกคนต่างก็เห็นด้วย

 “ตามกฎหมายผังเมืองพื้นที่บริเวณนี้เป็นสีเขียวอ่อน หากจะปรับเปลี่ยนไปเป็นอาคารสำนักงานซึ่งเป็นพื้นที่สีน้ำเงินน่าจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม การคืนพื้นที่ให้ประชาชนเพื่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้และภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีของตัวเอง ย่อมมีความสำคัญมากกว่าการที่จะเอาอาคารนี้ไปทำเป็นสำนักงาน จึงเรียกร้องให้ทางจังหวัดโดยเฉพาะผู้ว่าฯ ช่วยทบทวนเรื่องนี้ใหม่ พร้อมรับฟังเสียงชาวเพชรบูรณ์ให้มากกว่านี้ ส่วนเทศบาลก็ควรขอดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง” นายวิศัลย์กล่าว