
โดนขับออกจากวัดแบบไม่รู้ตัว "พระมหาอุเทน" เล่าวิตกจนคอแห้ง เจอเตือนลบคลิป
เผือกร้อนกระเด็นกระดอน.. "พระมหาอุเทน" โพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ ถูกภาคทัณฑ์ ขับออกจากวัด "วัดชนะสงคราม" ย้ำ ต้องการบวชตลอดชีวิต
มีประเด็นให้ติดตามกันอีกครั้ง สำหรับเรื่องราวของ "พระมหาอุเทน ปญฺญาปริทตฺโต" หลังเคยเจอดราม่า พาดพิงฆราวาสด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม จน "วัดชนะสงคราม" ออกหนังสือคำสั่งตักเตือน อย่าก่อเหตุซ้ำอีก แต่ทาง "พระมหาอุเทน" ไม่ยอมหยุด ทำให้คณะสงฆ์วัดชนะสงครามมีมติภาคทัณฑ์ เป็นเหตุให้พระหาอุเทนตัดสินใจขนของออกจากวัด ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. ซึ่งยังไม่ยืนยันว่า พระมหาอุเทนไปอยู่ที่ใดนั้น
ล่าสุด "พระมหาอุเทน" ได้โพสต์คลิปลงเพจเฟซบุ๊ก พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ ระบุข้อความว่า "เผือกร้อนกระเด็นกระดอนไป ใครก็ไม่กล้ารับ แต่ท่านพระครู… ก็อ้าแขนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีจิต แม้กุฏิที่ตนเคย สร้างเอาไว้แท้ ๆ แต่ก็ต้องออกไปภายใน 6 ชั่วโมง"
ซึ่งภายใคลิปนั้น "พระมหาอุเทน" ได้เปิดใจในทำนองว่า.. ตอนนี้ได้มาอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ไม่รู้ตัวว่าต้องถูกภาคทัณฑ์ ขับออกจากวัดกลางอากาศอย่างฉับพลัน ตอนนั้นตนทำกิจของสงฆ์ตามปกติ ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนั้นถึงได้เยือกเย็นขนาดนั้น จนได้มาเจอหลวงพี่เจริญ ก็รู้สึกอบอุ่นใจ ที่นิมนต์ให้มาอยู่ ถ้าเป็นท่านทั้งหลายจะรู้สึกอย่างไร ถูกคำสั่งขับออกจากวัดทันทีทันใด ตอนนั้นวิตก ตกในสภาพนั้น ถึงขั้นคอแห้ง จำวัดหลับได้ยากมาก ต้องรีบติดต่อรถมาเอาของในกุฏิในวันรุ่งขึ้น
ซึ่งระหว่างนั้น ตนได้ทำคลิปแสดงธรรมเกือบ 40 นาที แต่ต้องลบคลิปออกไป ทั้งที่มีการชมไปแล้วพันกว่าๆ แต่มีพระรูปนึงได้เตือน และบอกว่าถ้าอาจารย์ลบคลิปได้ก็ควรลบคลิปนะ จะได้ไม่เป็นเรื่องเป็นราว อาจารย์ควรอยู่อย่างสงบนิ่ง ตนเลยเชื่อคำตักเตือนและได้ลบไป
จากนั้นก็ใช้เวลาขนของเยอะแยะมากมาย โดยใช้รถขนของ 3 คัน แทบหมดกุฏิ ยังเหลือบางอย่างที่กุฏิ แต่ขอให้ล่วงไปหลายวันจากนี้หน่อย จะกลับไปเอาของที่วัดชนะสงคราม
ทั้งนี้ "พระมหาอุเทน" เผยอีกว่า การภาคทัณฑ์ มีค่าเท่ากัน กับการให้ลาสิกขา เพราะการขับตนออกจากวัดชนะสงคราม ก็เท่ากับให้ลาสิกขา แต่ตนบอกท่ามกลางสงฆ์วัดชนะสงครามว่า ต้องการบวชตลอดชีวิต เพื่อสนองงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ตอนนั้นยังไม่นึกถึงพรหมญาณธรรมาราม แต่นึกถึงที่วัดพระธาตุหลวงจำไก่ ซึ่งทางวัดแจ้งว่า ไม่สะดวกในการรับพระ และขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็นึกถึงสำนักปฏิบัติธรรมพรหมญาณธรรมาราม สาขาวัดคีรีวงศ์ จ.นครสวรรค์ ที่เคยสร้างไว้ ปัจจุบันมีหลวงพี่เจริญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ กับหลวงตาแก้ว จำพรรษาอยู่ ซึ่งตนร่วมทำบุญสร้างสำนักแห่งนี้ จึงติดต่อหลวงพี่เจริญ ก็ยินดีให้ตนไปอยู่ ทั้งยังบอกว่าให้อยู่ที่นี่ไปตลอดด้วย
โดย "พระมหาอุเทน" ทิ้งท้ายว่าอยู่ที่นี่ได้มากกว่าเสีย ทั้งที่ก่อนมาตากระตุกจนกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายแล้วรู้สึกสงบสบายใจ



