หนุ่มมะกันติดมะเร็งสตรีผู้บริจาคไตเมียฟ้อง100ล้าน | คมชัดลึก

(28พ.ค.) ทนายความของนางคิมเบอรี่ ภรรยาม่ายของนายวินเซ็นต์ หลิว ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนผู้เสียชีวิตในวัย 37 ปีเมื่อปี 2545 หลังจากติดโรคมะเร็งจากสตรีผู้บริจาคไตให้เขา โดยไม่รู้ว่าตนเป็นมะเร็งปากมดลูก ได้แถลงต่อคณะลูกขุนที่นครนิวยอร์คเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ศูนย์การแพทย์ " NYU แลนกอน" ผู้ทำการผ่าตัด สมควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อการที่นางหลิวฟ้องเรียกค่าเสียหายจากทางศูนย์มากกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( เกือบ 100 ล้านบาท)

ทนายความระบุว่า นายหลิวตัดสินใจเก็บไตเอาไว้ หลังจากศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้เขาที่ศูนย์การแพทย์ดังกล่าวสรุปว่ามีโอกาสน้อยที่เขาจะติดมะเร็งปากมดลูกที่เป็นโรคเฉพาะของสตรี จึงเป็นคำแนะนำที่เหมือนกับนำชีวิตของนายหลิวไปเสี่ยงในการพนัน และเขาแพ้พนัน 

ทางศูนย์การแพทย์ต่อสู้คดีว่าได้ให้คำแนะนำกับนายหลิว และเคารพการตัดสินใจของเขารวมทั้งได้คอยตรวจหาอาการของมะเร็งที่ไต แต่ไม่พบ อย่างไรก็ตาม นายหลิวเจ็บหลังและ 6 เดือนหลังการผ่าตัดเปลี่ยนไตเมื่อปี 2545  ก็ต้องผ่าตัดเอาไตบริจาคออก และเขาเสียชีวิตในสามสัปดาห์ต่อมาเพราะโรคมะเร็งที่ผลชันสูตรระบุว่าติดมาจากผู้บริจาคไต แต่ผลชันสูตรไม่ได้ระบุว่า เขาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคมะเร็งที่อวัยวะส่วนใด

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ากรณีนี้อาจเป็นกรณีเดียวของโลกที่เป็นที่ทราบกันว่า มะเร็งปากมดลูกแพร่ไปยังคนอื่นผ่านทางการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่เป็นพยานฝ่ายจำเลยบางคนเชื่อว่าเขาเป็นมะเร็งจากระบบภูมิคุ้มกัน ที่บางครั้งเกิดกับผู้ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะมากกว่า

นายหลิวเคยเป็นชาวสิงคโปร์แต่ไปทำงานที่สานักงานการค้าและเศรษฐกิจของไต้หวันที่นครนิวยอร์ค เขาเป็นเบาหวานมาตั้งแต่วัยรุ่นและต้องฟอกไตสัปดาห์ละสามครั้ง และรอไตบริจาคมา 5 ปีก่อนจะได้ผ่าตัดเมื่อ 25 มีนาคม 2545 เพราะนางแซนดี้ คาเบรร่า วัย 50 ปี เสียชีวิตเพราะหัวใจวายหนึ่งวันก่อนหน้านั้น

เพื่อนชายของนางคาเบรร่าให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าไม่มีใครทราบว่าเธอเป็นมะเร็ง ผลชันสูตรที่มีขึ้นหลังเธอเสียชีวิตได้หลายวันแล้ว พบว่าเธอเป็นมะเร็งปากมดลูกที่เริ่มลามไปถึงปอดแล้ว  และกว่าแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนไตจะทราบผลการชันสูตร เวลาก็ล่วงเลยถึงกลางเมษายนแล้ว