สรุปข่าว "ฝูงสิงโต" รุมขย้ำ "เจ้าหน้าที่" เสียชีวิต สาเหตุเกิดจากอะไร | คมชัดลึก

 

ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเด็น "ฝูงสิงโต" รุมขย้ำ "เจ้าหน้าที่" เสียชีวิต โดยความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายชื่อ นายเจียน อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลอินทรารักษ์ แต่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวอาการสาหัส เสียเลือดมาก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ให้อาหารสิงโต รวมทั้งคอยขับรถปิกอัพยกสูง ลายขาวดำของสวนสัตว์ เพื่อดูแลควบคุมกำหนดบริเวณให้สิงโต และเสืออยู่ในบริเวณที่กำหนด โดยยังไม่มีข้อมูลว่า ทำไม่ลงจากรถแล้วถูกสิงโตขย้ำเสียชีวิตดังกล่าว อยู่ระหว่างตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

 

สำหรับบรรยากาศที่สวนสัตว์ดังกล่าวพบว่า ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทาง มาใช้บริการตามปกติ ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว พร้อมทางเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส รุดมาตรวจสอบที่สวนสัตว์ดังกล่าว 

 

โดย นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส ได้เดินทางมายังสวนสัตว์ที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ลงมาตรวจสอบสวนสัตว์ดังกล่าวเป็นประจำในแต่ละเดือนอยู่แล้ว ทั้งตรวจสอบสิงโตที่มีจำนวนทั้งสิ้น 32 ตัว สถานที่เลี้ยง และตัวเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล

 

ส่วนรายละเอียดเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ลงจากรถนั้น ต้องขอพูดคุยรายละเอียดข้อเท็จจริงอีกที โดยเฉพาะนิสัยของสิงโต ซึ่งต้องพูดคุยกับทางสัตวแพทย์อีกทีหนึ่ง ทั้งนี้ที่ผ่านมา สวนสัตว์ดังกล่าวไม่เคยมีประวัติสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่มาก่อน แต่หลังจากนี้จะต้องมีการทบทวนมาตรการความปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินอีกครั้ง 

 

 

 

นายแพทย์ ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาล พระมงกุฎเกล้า เปิดเผยว่า ตนมาเที่ยวที่สวนสัตว์แห่งนี้ตามปกติ สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ตนเห็นว่า ผู้ประสบเหตุขับรถยนต์เข้ามาคนเดียว จู่ๆ ก็เปิดประตูแล้วลงมาจากรถหันหลังให้กับฝูงสิงโต โดยที่ตนก็ไม่ทราบสาเหตุ

 

ผ่านไปไม่นานก็มีสิงโต 1 ตัวเข้ามาตะปบกระชากร่างของผู้ประสบเหตุ แล้วสิงโตอีกประมาณ 6 ตัวก็ตามมารุมขย้ำฉีกร่าง โดยที่ผู้ประสบเหตุไม่มีแม้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ตนและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ต้องบีบแตร นานกว่า 15 นาที เพราะไม่มีใครกล้าลงไป ทำให้เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์เข้ามาระงับเหตุ ในฐานะนักท่องเที่ยว นายแพทย์ธวัชชัย ยืนยันว่า ทุกครั้งเจ้าหน้าที่จะมีการอธิบายกฎเหล็ก ก่อนเข้าชมสัตว์ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าที่นี่มีความปลอดภัยสูง เพราะมาเที่ยวที่นี่หลายครั้ง

 

 

ด้าน พันตำรวจเอก นิรุชพล โยธามาตย์  ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำงานมานานกว่า 30 ปี มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าดูแลสัตว์ดุร้าย มีหน้าที่ไล่ต้อนสัตว์ ส่วนมาตรการจัดการกับสัตว์ดุร้าย เท่าที่ทราบโดยปกติแล้วสิงโตจะไม่เข้าใกล้รถของเจ้าหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ประตูรถยังคงเปิดอยู่ พร้อมทั้งมีรองเท้าของเจ้าหน้าที่และคราบเลือด

 

ในส่วนของการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุ หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดร่วมกับพยานที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าจะมีการปรับมาตรการความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะทราบว่า ก่อนปฏิบัติงานทุกครั้งจะมีการประชุมเตรียมงานอย่างสม่ำเสมอ

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบเอกสารจดหมายลาตายใด ๆ ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ทางตำรวจยังไม่ได้รับการยืนยันสถานะว่า ผู้ประสบเหตุเป็นผู้เสียชีวิต แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้สูง

 

 

ขณะที่ นายยุทธนา พิทักษ์ทา ผู้ดูแลสวนสัตว์โซนจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า สวนสัตว์แห่งนี้เปิดมานานกว่า 40 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก่อน เท่าที่รู้จักทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอุปนิสัยใจเย็นและทำงานมานานกว่า 30 ปี ทำให้รู้กฎเป็นอย่างดี ซึ่งการจะเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ผู้ที่เข้าไปทุกคนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจากรถ รวมถึงต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของสวนสัตว์อย่างเคร่งครัด 

 

ขณะเกิดเหตุไม่ทราบว่า ทำไมเจ้าตัวถึงตัดสินใจลงจากรถ ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสียชีวิตดื่มสุราขณะปฏิบัติงานหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ ยืนยันหลังจากนี้บริษัทจะดูแลเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และจะเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

 

ทั้งนี้ สำหรับโซนเกิดเหตุขณะนี้ได้มีการปิดเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ส่วนสิงโตทั้งหมดก็ได้มีการขังไว้ในกรง โดยสิงโตของสวนสัตว์ มีใบอนุญาตถูกต้องถูก นำเข้ามาจากหลายประเทศแต่ส่วนใหญ่เป็นสิงโตที่นำเข้าจากแอฟริกา