ข่าว

โจรใต้กดระเบิดทหารพรานดับ4นายที่ปัตตานี

โจรใต้กดระเบิดทหารพรานดับ4นายที่ปัตตานี

19 มี.ค. 2552

คนร้ายลอบกดบึ้มทหารขณะกลัจากตรวจสภาพร่างกายค่ายอิงคยุทธ ปัตตานี ร่างกระเด็นคนลอทิศคนละทางดับคาที่ 4 ศพ กำลังผสมระแงะรวบมือประกอบระเบิดและ 6 ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพประกอบมาแล้วเกือบ 100 ลูก พร้อมยึดของกลางอื้อ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มี.ค. พ.ต.ท.ปรีดา นาคช่วย รอง ผกก.ป.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายบ้านโคกวัว – บ้านบือแนลาแล ม.8 บ้านบือแนลาแล ต.ปล่องหอย จึงรายงานให้ พล.ต.ต. กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก. พ.อ.ปกรณ์ จันทรโชตะ ผบ.ทหารพรานที่ 44 นำกำลังตำรวจ ทหาร ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ

 พบรถยนต์กระบะสี่ประตู สีบอร์นทอง ยี่ห้อโตโยต้า อยู่ในสภาพหงายท้องพังยับเยิน ชิ้นส่วนแตกกระจายไปทั่วบริเวณ และ พบผู้เสียชีวิตเป็นทหารพราน จำนวน 4 นาย กระเด็นออกจากรถคนละทิศละทาง

 โดยศพแรกอยู่ห่างจากรถยนต์ประมาณ 50 เมตร ทราบชื่อ จ.ส.อ.ชัยฤทธิ์ มีแก้ว อายุ 50 ปี สภาพศพถูกแรงระเบิดจนร่างแหลก ส่วน ส.ต.สุรพงษ์ จำปา อายุ 21 ปี อส.ทพ. ปรีชา สุวรณอักษร อายุ 22 ปี อส.ทพ. ไกรสิน อินทร์เพชร อายุ 22 ปี ทั้ง 3 นายสภาพศพแขนขาหัก ลำตัวถูกสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง

 นอกจากนี้พบหลุมระเบิดห่างจากรถยนต์ประมาณ 30 เมตร กว้าง 3 เมตรลึก 2 เมตร พบสายไฟลากยาวเข้าไปในป่า 150 เมตร และพบชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ

 สอบสวนทราบว่าเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นาย สังกัด ร้อยทหารพรานที่ 4403 กรมทหารพรานที่ 44 ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ จ.ส.อ.ชัยฤทธิ์ ขับรถยนต์คันเกิดเหตุ เดินทางมาจากตรวจเช็คร่างกายประจำปีที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีผู้เสียชีวิตอีก 3 นายนั่งอยู่ภายในรถมาด้วย

 ปรากว่าขณะกำลังเดินทางกลับฐาน โดยระหว่างเดินทางกลับฐานได้ลาดตระเวนเส้นทางเพื่ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ด้วยนั้น ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่า ได้กดชนวนระเบิดบรรจุในถังเคมีดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ฝังใต้ถนนจุดชนวนด้วยสายไฟเชื่อมต่อแบต เตอร์รี่ แรงระเบิดเข้ากลางตัวรถทำให้เสียงดังสนั่นและทำให้รถยนต์กระเด็นไปไกล เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในรถกระเด็นออกจากรถไปคนละทางเสียชีวิตทันที ส่วนคนร้ายหลบหนีไป

 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารกระจายกำลังปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 1 กิโลเมตร เชื่อคนร้ายยังคงกบดานในพื้นที่ โดยมีแนวร่วมในพื้นที่ให้ที่หลบซ้อนตัว เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ อาเคเค ในพื้นที่ ต้องการแก้แค้นและตอบโต้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารรถตรวจค้นจับกุมแนวร่วมระดับแกนนำหลายรายจึงก่อเหตุสร้างสถานการณ์

 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่สื่อมวลชนเดินทางเข้าไปทำข่าวที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งรับผิดชอบ อ.กะพ้อ เข้ามาห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวและถ่ายภาพ ซึ่งสื่อมวลชน ก็ได้ยืนอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร แต่ได้ถ่ายภาพไกล ๆ แต่ทหารซึ่งเฝ้าอยู่ได้ห้ามและใช้ถือปิดกล้องของสื่อมวลชน ทั้ง ๆ ที่สื่อพยายามให้ความร่วมมือ โดยที่ได้ถ่ายภาพอยู่ห่าง ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ทหารให้ยืน

 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สื่อมวลชนในพื้นที่ห่างไม่พอใจ กับการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้เคยมีการประชุมพูดคุยกันระหว่างหน่วยทหารกับสื่อ ถึงข้อตกลงในการทำข่าวแล้ว เมื่อเกิดปัญหาครั้งนี้ถือเป็นการริดลอนการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อจนส่งผลด้านมวลชนระหว่างกัน

รวบมือประกอบระเบิดป่วนใต้พร้อมพวก6คน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 52 ณ ห้องปฏิบัติการณ์หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 นายประคอง คงแก้ว นายอำเภอระแงะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวผลการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครอง จำนวน 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกในการควบคุมตัว นายมะรูดี สะอิ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/1 ม.1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยและเป็นมือประกอบระเบิดแสวงเครื่องของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่ใช้ในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาทำการสอบสวนขยายผล

 โดยนายมะรูดี ให้การรับสารภาพว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องให้กับกลุ่มผู้ไม่หวังดีในช่วงที่ผ่านมา จำนวนกว่า 40 ลูก โดยทางกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ให้ค่าตอบเดือนเป็นรายเดือนๆละ 2,500 บาท พร้อมได้ให้การรับสารภาพถึงกลุ่มเครือข่าย และสถานที่ใช้ในการประกอบระเบิด รวมทั้งที่ซุกซ่อนซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด มีด้วยกัน 2 จุด

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายมะรูดี ไปทำการชี้เป้าที่บ้านพักต้องสงสัยเลขที่ 128 ม.2 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายมะซำดี เจ๊ะมะ อายุ 30 ปี ซึ่ง นายมะรูดี ให้การรับสารภาพว่า เป็นที่ซุกซ่อนอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด และใช้เป็นสถานที่ซ่องสุมวางแผนเพื่อก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

 และเมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวต่อ นายมะซำดี เจ้าของบ้าน เพื่อขอตรวจค้นโดยนายมะซำดี และพวก รวม 6 คน ที่อาศัยอยู่ในบ้านพัก ได้พยายามที่จะวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้

 และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันตรวจค้นภายในบ้านพักอย่างละเอียด พบของกลางเป็นอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด และเครื่องมือขุดถนนเพื่อใช้ฝังระเบิดใต้ผิวถนน จำนวนเกือบ 100 รายการ อาทิ นาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล, วงจรอีเล็กทรอนิกส์, สายไฟฟ้า, ท่อแป๊ปเหล็ก, ลวดทองแดง, สวิชควบคุมการทำงานของระเบิด, คีมตัดเหล็ก, มิเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า, ลูกแก้วใช้เป็นสะเก็ดระเบิด, หมวกไหมพรม, ชุดลายพรางทหาร, เป้สนาม, เปลสนาม, ผ้ายางกันฝน, พลั่วสนาม, มีด, กระเป๋า, ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือและอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก

 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายมะรูดี นายมะซำดีและพวก รวม 7 คน พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนในเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ซึ่งในเบื้องต้นส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และ เจ้าหน้าที่เตรียมส่งบุคคลทั้ง 7 ไปยังศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการสอบสวนขยายผล รวมทั้งทำการตรวจสอบของกลางและตรวจสอบ ดี.เอ็น.เอ.ของบุคคลทั้ง 7 ว่า เคยเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงในพื้นที่ใดบ้าง