ข่าว

"หนึ่งบางปู" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ "หลวงพ่ออลงกต" พร้อมท้า "เกรียงไกร" เดือด!

"หนึ่งบางปู" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ "หลวงพ่ออลงกต" พร้อมท้า "เกรียงไกร" เดือด!

25 ส.ค. 2568

"หนึ่งบางปู" ยกมือไหว้สาบาน แฉ "หลวงพ่ออลงกต" ชวนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ขายสินค้ามูลนิธิ "วัดพระบาทน้ำพุ" บริจาคเงินผ่านแอปฯ ทนายรณรงค์ เผยเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา

 

วันนี้ (25 สิงหาคม 2568) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมด้วย "หนึ่ง บางปู" บุคคลที่เคยบริจาคเงินสดให้กับ "วัดพระบาทน้ำพุ" จำนวนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุและ "หลวงพ่ออลงกต"

 

โดย นางสาววรัชญากรณ์ อ่อนธรรม หรือ "หนึ่ง บางปู" เปิดเผยว่า เธอรู้จักอดีตเจ้าวาดวัดพระบาทน้ำพุมาประมาณ 10 ปี ก็รู้จักผ่านสื่อมวลชน และเห็นภาพหลวงพ่ออุ้มเด็กที่ป่วยเอชไอวีจึงเกิดความสงสาร และเลื่อมใสอยากร่วมทำบุญกับทางวัด ต่อมาเธอเริ่มทำธุรกิจ และมีเงินจึงอยากจะทำอะไรเพื่อบ้านเกิดของตัวเอง เพราะเธอเคยเป็นคนลพบุรี

 

ทำบุญครั้งแรกด้วยการถวายเงินสดให้กับหลวงพ่อเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ไปทำบุญต่อเนื่องบริจาคครั้งละหลักแสนถึงหลักล้านบาท มากสุดที่เคยบริจาคเงินสด คือ 2 ล้านบาท และทุกครั้งบริจาคเงินไม่เคยขอใบอนุโมทนาบัตรเลยซักครั้ง เพราะถือว่าเป็นการทำบุญ แต่บางครั้งวัดก็มอบให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะเธอก็ไม่เคยขอ

 

หลังจากที่เธอเข้าไปทำบุญกับทางวัดหลายครั้ง ก็ทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จนเริ่มมีคนภายในวัดที่เป็นมือซ้ายมือขวาของหลวงพ่อเข้ามาดูแลเธอ จะคอยบอกว่าวันนี้หลวงพ่อไปรับบิณฑบาตญาติโยมที่ไหน และหลังจากที่เธอทำบุญกับหลวงพ่อหลายครั้ง

 

หลวงพ่อให้เธอเป็นแบรนด์แอมบัสเตอร์วัดเป็นบุคคลตัวอย่าง เพราะเธอเป็นคนมีชื่อเสียง เธอจึงได้มีการไปจัดกิจกรรมร้องเพลง หรือประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางส่วนตัวเพื่อให้แฟนคลับของเธอมาร่วมทำบุญ ซึ่งก็มีแฟนคลับของเธอมาร่วมทำบุญเยอะ ซึ่งคนละส่วนกับ "หมอบี" แต่มีครั้งนึงหลวงพ่อพยายามที่จะให้ตนเองไปรู้จักกับหมอบี แต่ตนเองรู้สึกไม่ถูกชะตาจึงขอไม่ร่วมงานด้วย

 

นอกจากนี้ยังเคยถามหลวงพ่อว่าค่าใช้จ่ายดูแลผู้ป่วยภายในวัดนั้นมีเท่าไหร่ ซึ่งหลวงพ่อบอกว่าทางวัดมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 6 ล้านบาทต้องดูแลผู้ป่วย และเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัดแต่ทางวัดมีรายรับต่อเดือนเพียงแค่ 2 ล้านบาท บางเดือนก็ไม่ถึงทำให้หลวงพ่อเป็นหนี้ธนาคารทุกธนาคาร หลังจากทำมาสักพักนึงสิ่งที่ทำให้รู้สึกผิด คือเวลาบริจาคเงินมันขึ้นชื่อบัญชีเป็นมูลนิธิโดย "นาย …" ตนจึงรู้สึกไม่ดี แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรคิดว่าหลวงพ่อคงให้ลูกศิษย์ไปกดเงินออกมาให้

 

\"หนึ่งบางปู\" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ \"หลวงพ่ออลงกต\" พร้อมท้า \"เกรียงไกร\" เดือด!

 

ต่อมาเมื่อปี 2564 หลวงพ่อได้จ้างวิศวกร หรือคนเขียนแอพพลิเคชั่นจำนวนมาทำแอพในราคา 1,000,000 ล้านบาง ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ที่ครบวงจร โดยหลวงพ่อได้โทรเรียกเธอไปประชุมเพื่อให้เธอทำการตลาด แอพนี้จะมีสินค้าของใจฟ้า และนาถะ โดยมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำหน่าย 24 ชั่วโมง มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย

 

อีกทั้งยังสามารถบริจาคเงินภายในแอพพลิเคชั่นได้ด้วย พร้อมบอกว่าตอนนั้นแอพพลิเคชั่นพร้อมใช้งานจริงพัฒนาไปแล้ว 99% แต่ตนเองเกิดปัญหาครอบครัวจึงได้แยกออกมาก่อนและไม่รู้ว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวดำเนินการต่อหรือไม่ ซึ่งเธอตอนนี้เธอมองว่า ว่าเป็นรูปแบบบริษัทและทำเพื่อการค้าเอากำไร ไม่ได้เกี่ยวกับการทำบุญเพราะชื่อบริษัทใจฟ้าโซเชียล และ บริษัทนาถะไม่ใช่ชื่อหลวงพ่อ

 

พร้อมบอกว่าที่ผ่านมาเงียบมาตลอดได้แต่เสียใจ เพราะตัวเองรัก และศรัทธาหลวงพ่อเหมือนพ่อเหมือนแม่เชิดชูมาก ที่ผ่านมาไม่กล้าพูดอะไรเลยทั้งที่ตัวเองรู้เรื่อง แต่ไม่กล้าเลือกที่จะไม่พูด แต่พอเราดูข่าวเรามั่นใจ จึงเลือกที่จะออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา คิดว่าหลวงพ่อไม่ใช่ของจริงไม่ใช่หลวงพ่ออลงกตที่เคยรู้จัก อยากให้คลายเป็นหลวงพ่อตัวจริงออกมา

 

\"หนึ่งบางปู\" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ \"หลวงพ่ออลงกต\" พร้อมท้า \"เกรียงไกร\" เดือด!

 

ที่ผ่านมาหลวงพ่อให้เธอทำอะไรเธอทำทุกอย่าง เพราะเธอศรัทธาแล้วตอนนั้นเธอเข้าใจว่าเธอทำบุญกับวัดแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเหมือนตนเองทำบาป เธอยืนยันว่าไม่ได้รับประโยชน์จากวัด

 

พร้อมยกมือไหว้สาบานบอกว่า "ตั้งแต่วินาทีแรกตั้งแต่วินาทีแรกที่ตนเองเข้าไปช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุตนเองเข้าไปช่วยด้วยความเต็มใจถ้าตนเองเข้าไปเพื่อแสวงหากำไรขอให้ตนเองชิป-หาย" และถ้าหากไม่มีหลักฐานตนเองจะดำเนินคดีกับ ผู้ที่กล่าวหาว่าตนรับผลประโยชน์จากหลวงพ่อและวัดพระบาทน้ำพุ

 

และท้า "นายเกรียงไกร" ให้ออกมาพูดสาบานต่อหน้าฟ้าดินเหมือนตนเอง

 

นอกจากนี้เธออยากให้ตรวจสอบเส้นเงินคนใกล้ชิดภายในวัดด้วยรวมถึงอยากให้ตรวจสอบโครงการแชร์ 9 บาทส่งต่อบุญให้วัดพระบาทน้ำพุที่เธอเคยร่วมดำเนินการกับทาง ว่าโครงการนี้ได้เงินบริจาคเท่าไหร่กันแน่เพราะหลวงพ่อเคยบอกว่าได้เงินจากโครงการนี้สองล้านบาทแต่ตัวเองเชื่อว่ามากกว่านี้อย่างแน่นอน

 

\"หนึ่งบางปู\" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ \"หลวงพ่ออลงกต\" พร้อมท้า \"เกรียงไกร\" เดือด!

 

ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่าขณะนี้พบข้อหาที่เข้าข่ายเป็นความผิดเบื้องต้น 4 ข้อหา คือความผิด เกี่ยวกับมาตรา 157 หลังพบพฤติการณ์โอนเงินที่ผิดปกติ ความผิดเกี่ยวกับการให้ข้อมูลเท็จกับเจ้าหน้าที่รัฐกรณีนำข้อมูลที่ไม่ตรงกับบัตรประชาชนไปแจ้งในใบสุทธิขณะอุปสมบท และการนำข้อมูลอาจเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีนำใบสุทธิที่อาจไม่ใช่ของจริงไปเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงินผ่านรูปแบบออนไลน์

 

ซึ่งกรณีนี้หากมีการใช้ใบสุทธิปลอมจริงก็จะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนด้วย พร้อมบอกว่าบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำประวัติของหลวงพ่ออลงกต และลงโซเชียลมีเดียข้อมูลทั้งหมดล้วนผิดกฎหมายในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งบุคคล เหล่านี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องไปตรวจสอบเช่นเดียวกัน

 

ส่วนญาติโยมตั้งใจโอนเงินไปให้กับวัดพระบาทน้ำพุ เพราะตั้งใจให้ทางวัดนำไปใช้เพื่อบำรุงรักษาวัด เจตนาของพี่น้องประชาชนทุกคนต้องการบริจาคให้วัด ไม่ได้ตั้งใจบริจาคให้มูลนิธิ จึงตั้งคำถามว่าถ้าหากมูลนิธิไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ และมีชื่อหลวงพ่อจะมีประชาชนที่ไหนโอนเงินมาให้คาดว่าคงโอนมาไม่ถึง 200 บาท พร้อมบอกว่าประชาชนมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถาม

 

และจากการแถลงการณ์ของวัดพระบาทน้ำพุเมื่อวานนี้ที่กรรมการวัดบอกว่า ไวยาวัจกรวัดคนเก่าเป็นคนทำประวัติหลวงพ่อขึ้นมาหลวงพ่อไม่รู้เรื่องนี้ เรื่องนี้ทนายรณรงค์ บอกว่าอย่าโยนความผิดให้คนตาย

 

\"หนึ่งบางปู\" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ \"หลวงพ่ออลงกต\" พร้อมท้า \"เกรียงไกร\" เดือด!

 

ส่วนกรณีเลข 13 หลักประชาชน เรื่องนี้ให้ไปถามหลวงพ่อโดยตรง เพราะเจ้าตัวจะเป็นคนรู้ดีที่สุดว่าเอาเลขบัตรประชาชน 13 หลักของคนตายไปทำอะไรเอาไว้บ้าง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องให้หลวงพ่อออกมาชี้แจงเองเลย ทนายรณรงค์ บอกว่าตอนนี้หลวงพ่อไม่ต้องออกมาแล้วเพราะเดี๋ยวเขาก็เชิญตัวหลวงพ่อมา

 

\"หนึ่งบางปู\" ยกมือไหว้สาบาน.. แฉ \"หลวงพ่ออลงกต\" พร้อมท้า \"เกรียงไกร\" เดือด!