เตือนภัยควาญช้าง! ชี้อันตรายจากภาวะ "ตกมันไม่สุด" พบหลายเชือกมีอาการ | คมชัดลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ โรงพยาบาลช้าง ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตร ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2568 ได้เกิดเหตุ พลายคำแสน อายุ 33 ปี เดิมเป็นช้างแถวเชียงราย ต่อมาเปลี่ยนเจ้าของมาอยู่ที่สุโขทัย  และเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลและกรรมสิทธิ์ของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภฯ โดย พระครูสังฆรักษ์ วีรวัฒน์ หรือพระครูอ๊อด ได้ไถ่ชีวิตเป็นเชือกที่ 8 จากทั้งหมด 10 เชือก ส่งมอบให้ทางสถาบันฯ ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ทำร้ายควาญได้รับบาดเจ็บ กระดูกคอหัก (รอประเมินระดับความรุนแรง) 

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ควาญช้างจะเข้าหาเพื่อเปลี่ยนกระดิ่งคอ( ฮอก) อันใหม่ให้ช้าง ด้วยเพราะที่ผ่านมาช้างแสดงอาการตกมันไม่ชัดเจน ควาญช้างจึงนำช้างมาเลี้ยงไว้ในป่า ด้วยเข้าใจว่าผ่านระยะตกมันไปแล้ว  จึงฝากแจ้งเพื่อนควาญช้างที่ พึงระลึกเสมอว่าช้างที่ระยะตกมันคาดเคลื่อนให้ระมัดระวังกันให้ดี ไม่เข้าหาช้างเพียงลำพัง ซึ่งในศูนย์มีเคสแบบนี้ในช้างอีกหลายเชือก ที่ไม่แสดงอาการตกมันชัดเจน หรือ ตกมันไม่ครบทั้ง 4 ระยะ จึงเป็นเหตุให้ทีมงานต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้ออกมาภายนอกและไม่ให้คนไม่คุ้นเคยเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด  
 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาพระครูอ๊อดได้เดินทางไปเยี่ยมพลายคำแสน พบว่าพลายคำแสน อ้วนขึ้นกว่าเดิมมาก อีกทั้งเป็นช้างแสนรู้ เมื่อเห็นพระครูอ๊อด พลายคำแสน แสดงอาการดีใจมากเข้าก้มกราบทันทีโดยไม่มีคราญช้างบังคับแต่อย่างใด ถือได้ว่าเป็นช้างแสนรู้ที่เชื่องมาก

ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยัง น.สพ.ดร.ทวีโภค อังควานิช หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ช้าง ฯ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ควาญถูกพลายคำแสนทำร้าย ขณะนี้ยังไม่ฟันธงว่า ตกมันแล้วทำร้ายควาญ หรือ ทำร้ายควาญแล้วตกมัน เพราะ หลังเกิดเหตุ ขึ้นไปดูน้ำมันที่ขมับช้างก็ไหลอยู่แล้ว  ตามข้อมูลในแต่ละปีที่ผ่านมา ตามรอบของพลายคำแสนต้องตกมันไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้จะสังเกตเห็นว่าพลายคำแสนตกมันไม่สุด คือมีน้ำมันไหลออกมานิดๆหน่อยๆ กระปริบกระปรอย หลังจากนั้นน้ำมันก็แห้งไป แล้วนิสัยก็กลับคืนมาเป็นปกติ เรียกว่าตกไม่สุด   

ซึ่งควาญก็คิดว่าน่าจะหยุดและคงไม่ตกมันแล้ว ซึ่งลักษณะของการตกมันไม่สุดจะเป็นในบางเชือก บางเชือกก็จะหายไปเลย จนถึงรอบใหม่อาจจะเร็ว หรือ ช้า แล้วแต่ช้างบางเชือกไม่เหมือนกัน  บางเชือกก็จะกลับมาในเวลาไล่เรี่ยกันเหมือนพลายคำแสน ซึ่งในลักษณะนี้ค่อนข้างอันตราย เพราะจะไม่รู้ว่าจะตกอีกเมื่อไหร่ ช่วงหลังจะพบว่าช้างมีลักษณะนี้เยอะขึ้น เพราะอากาศก็ร้อน อาหารก็ไม่มีในธรรมชาติเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งต้องสังเกตช้างทางกายภาพ คือช้างสมบูรณ์ขึ้น อ้วนขึ้น กล้ามเนื้อแน่นขึ้น  ส่วนทางพฤติกรรมก็จะเริ่มไม่ค่อยเชื่อฟังควาญ  นิสัยเริ่มเปลี่ยน แต่กรณีของพลายคำแสน คาดว่าควาญกับช้างจะใกล้ชิดกันมาก ซึ่งเข้าใจว่าช้างน่าจะทำร้ายควาญก่อนแล้วจึงตกมัน  

ทั้งนี้ขอเตือนยังควาญช้างทั้งหลายให้ระวังและสังเกตช้างให้ดี โดยเฉพาะอาการช้างตกมันไม่สุด เพราะไม่รู้ว่าช้างจะกลับมาตกมันอีกเมื่อไหร่  และการเข้าหาช้างแต่ละครั้งอย่าเข้าไปคนเดียวต้องหาเพื่อนไปด้วย เพื่อความปลอดภัย.