
รพ.พระนารายณ์มหาราช เอาผิด พระป่วยลมชัก อาการกำเริบชกพยาบาลสาว
รพ.พระนารายณ์มหาราช เอาผิด! พระป่วยลมชัก อาการกำเริบชกพยาบาลสาว พร้อมรอพบจิตแพทย์ประเมินผลกระทบทางจิตใจ สั่งทบทวนแนวทางรักษาความปลอดภัยบุคลากร
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี ออกแถลงการณ์ เรื่อง เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 มี.ค.เวลาประมาณ 09.25 น. บริเวณ ชั้น 2 คลินิกอายุรกรรม อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ คือ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชได้ถูกผู้ป่วย (พระภิกษุ) ทำร้ายร่างกายจากทางด้านหลังขณะปฏิบัติหน้าที่ นั้น
โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอชี้แจงรายละเอียด ของเหตุการณ์ดังนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ป่วยรายนี้ (พระภิกษุ) มาเข้ารับการตรวจติดตามนัดหมายด้วยโรคลมชัก คลินิกอายุรกรรมสมองและระบบประสาท ขณะรอตรวจ พยาบาลจุดชักประวัติสังเกตเห็นว่าผู้ป่วย (พระภิกษุ) มีอาการสับสน ปลดจีวรและเดินไปมาหลายรอบ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายกำลังให้บริการผู้ป่วยรายอื่นอยู่ ผู้ป่วยภิกษุได้เดินเข้ามาทำร้ายร่างกายทางด้านหลังโดยใช้มือทุบบริเวณด้านหลังและลำคอ 2 ครั้ง ญาติ และผู้ป่วยรายอื่นที่มารอตรวจได้เห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายและช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้
จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมาช่วยระงับเหตุโดยทันทีและนำผู้ก่อเหตุส่งห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน พบว่าผู้ก่อเหตุพูดจาสับสน นอนดิ้นไปมาโดยมีสัญญาณชีพปกติ แพทย์ได้ให้ยาระงับประสาทเพื่อให้ผู้ป่วยสงบและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคประจำตัวควบคู่กับจิตแพทย์เพื่อรักษาอาการต่อไป
สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายร่างกายแพทย์ตรวจไม่พบบาดแผลภายนอก มีอาการปวดบริเวณบ่าขวาและท้ายทอย แพทย์ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน 2 วัน โดยมีการนัดหมายให้พบจิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเพื่อประเมินผลกระทบทางจิตใจหลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ในการนี้ โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ได้มอบทีมกฎหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรีและดำเนินการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ราชการ โดยเป็นการดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยบริการสาธารณสุข
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก โรงพยาบาลจึงได้สังการให้มีการทบทวนแนวทางการรักษาความปลอดภัยของบุคลากรในหน่วยงานเพื่อป้องกันมีให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเช่นนี้อีก พร้อมทั้งช่วยเหลือเยียวยาเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม