สื่อเทศเปิดโปง"คนชุดดำ"คือนักรบเสื้อแเดง | คมชัดลึก

(18พ.ค.) นายทิม จอห์นสัน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สหรือเอฟที. ประจำกรุงเทพฯ ได้นำเสนอบทความเรื่อง "นักรบชุดดำ"-แนวหน้าในเหตุปะทะที่ไทย"บนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เมื่อวันจันทร์ (17 พ.ค.) ว่าท่ามกลางสงครามหลากสีในไทยนั้น มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่านักรบชุดดำ ซึ่งเป็นกองกำลังลึกลับคอยสร้างสถานการณ์รุนแรงขึ้น และเริ่มมีการนำภาพของคนเหล่านี้ออกมาเปิดเผยเป็นระยะๆ แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่เคยเปิดเผยตัวออกมาว่าเป็นใคร

 เว็บไซต์ของเอฟที.กล่าวว่านักรบชุดดำเหล่านี้มีปืนเป็นอาวุธ และดูเหมือนจะเป็นกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)หรือ กลุ่มเสื้อแดง ซึ่งอ้างมาตลอดว่าต่อสู้โดยสันติอหิงสาขณะยังคงปักหลักประท้วงรัฐบาลอยู่หลังแนวปราการยางรถยนต์และหลาวไม้ไผ่กลางย่านแหล่งช็อปปิ้งหรูหราที่สุดของกรุงเทพ

 นายจอห์นสันรายงานว่ากลางสถานที่ชุมนุมรอบราชประสงค์  มีวัยรุ่นหลายคนเดินไปเดินมาในสภาพเมายา ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างสารเทสโทสเตโรนหรือยากระตุ้นฮอร์โมนและเมธาเฟตามีนหรือยาบ้า  โดยต่างคุยโตโอ้อวด แสดงความคลั่งไคล้ในชุดโปรด  ประกอบด้วยรองเท้าดำ กางเกงดำ เสื้อยืดดำ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ต้องมีโลโก้ปืนยี่ห้อดังอย่าง กล็อก หรือ เฮคเลอร์ แอนด์ คอช

 "นี่คือปัญหา เป็นสิ่งที่เราไม่อยากเห็น เช่นเดียวกับแกนนำทุกคน ผมต้องการให้การชุมนุมเป็นไปโดยสันติและดำเนินไปอย่างที่เคยเป็นมาโดยตลอด แต่ความโกรธเคืองของประชาชนพอกพูนขึ้น และปฏิบัติการนี้ปะทุความรู้สึกของพวกเขาขึ้นมา" นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งแกนนำคนเสื้อแดงให้ความเห็น

 ไฟแนนเชี่ยลไทมส์รายงานว่า กลุ่มรักสันติหรือสายพิราบในกลุ่มเสื้อแดงซึ่งยอมรับข้อเสนอปรองดองของรัฐบาลเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้สูญเสียอำนาจการควบคุมกลุ่มนปช.ให้กับกลุ่มหัวรุนแรงหรือพวกฮาร์ดคอร์ ซึ่งได้ลุกขึ้นสู้กับทหารโดยใช้อาวุธตามมีตามเกิดเท่าที่พอหาได้ อย่างหนังสติ๊ก ระเบิดทำเอง และระเบิดขวด แต่ก็มีหลักฐานมากขึ้นทุกทีว่ากลุ่มเสื้อแดงมีกองกำลังติดอาวุธ ที่อาจจะอยู่หรืออาจจะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของแกนนำก็ได้คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง  โดยหลายคนเชื่อว่า พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธแดงอยู่เบื้องหลังกลุ่มนักรบชุดดำเหล่านี้

 ต่อกรณีนี้นายธิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ความเห็นว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่ม นปช.เพราะทางกลุ่มเคยบอกว่าพวกเขามีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง 

 นายธิตินันท์กล่าวด้วยว่าไม่รู้สึกประหลาดใจที่จะมีกลุ่มติดอาวุธแบบนี้เกิดขึ้นมา ในเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีล้มเหลวในการแก้ปัญหาหลายเรื่องที่เป็นสาเหตุของการประท้วง นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งปลายปี 2551

 นายธิตินันท์ยังแสดงความวิตกด้วยว่าความรุนแรงได้ขยายตัวออกไปนอกกรุงเทพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่มาก เพราะ พวกนักรบชุดดำนั้นมองเลยไปไกลกว่าราชประสงค์ พวกเขามองไปถึงเรื่องการจับอาวุธขึ้นต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์

ผู้นำอินโดนีเซียจี้อาเซียนถกสถานการณ์ในไทย

ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโนโยโน่ ของอินโดนีเซีย ได้ส่งจดหมายถึงเวียดนาม ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของสมาคมอาเซียน เรียกร้องให้จัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำชาติสมาชิก เพื่อออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศไทย โดยผู้นำอินโดนีเซีย ได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวนอกรอบการเยือนสิงคโปร์ เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สมาคมอาเซียนจำเป็นต้องจุดยืนที่ไปในทิศทางเดียวกันและสร้างสรรค์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปัจจุบัน

ประธานาธิบดียูโดโยโน่ กล่าวว่า ในสภาพสถานการณ์ปัจจุบัน ที่โลกกำลังให้ความสนใจนั้น ได้เป็นประเด็นที่ชาติสมาชิกจะร่วมกันออกแถลงการณ์ ซึ่งจะไม่เป็นการดีแน่ ถ้าชาติสมาชิกจะไม่ทำอะไรเลย เขาคิดว่าจะต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และต้องแสดงให้เห็นว่าชาติสมาชิกให้ความเอาใจใส่ต่อเรื่องนี้ด้วย และยิ่งไปกว่านี้ อาเซียนยังมีกฎบัตร ี่จำเป็นต่อการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี 2558

ผู้นำอินโดนีเซีย ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการจะแทรกแซงกิจการภายในของไทย แต่จะเป็นการเหมาะสมสำหรับอาเซียน ในการให้ความสนับสนุนรัฐบาลไทย ในการแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงความรุนแรง เขายังได้พูดย้อนไปถึงวิกฤติการเงิน เมื่อช่วงระหว่างปี 2540-2541 ที่เริ่มต้นจากวิกฤติค่าเงินในไทย ก่อนจะลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย และอินโดนีเซีย ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากวิกฤติในครั้งนั้น

ประธานาธิบดียูโดโยโน่ ยังได้เปรียบเทียบว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ประชุมกันในทันที และมีการประสานความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือสมาชิก อย่างกรีซ ที่ตกอยู่ในวิกฤติที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินมหาศาล และอาเซียนก็ควรต้องทำแบบเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ให้เอาชนะวิกฤติการเมืองที่เริ่มส่งผลต่อสถานการณ์ความมั่นคงแล้ว

ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีลี เซียง หลุง ของสิงคโปร์ ประธานาธิบดียูโดโยโน่ ได้ยกประเด็นวิกฤติในไทยขึ้นมาหารือด้วย ส่วนประธานอาเซียนในปัจจุบัน คือ นายกรัฐมนตรี เหงียน ตัน ดุงของเวียดนาม ด้านนายมาร์ตี้ ตาทาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า สถานทูตมาเลเซียในกรุงเทพฯ เพิ่งเรียกร้องให้พลเมืองชาวอินโดนีเซีย ระมัดระวังตัวและอยู่ให้ห่างจากพื้นที่การชุมนุมและความรุนแรง แต่ยังไม่ได้พิจารณาเรียกพลเมืองกลับประเทศ และเพียงแต่ให้คำแนะนำเรื่องการเดินทาง แต่ยังไม่ถึงขั้นเตือนไม่ให้มาไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวอินโดนีเซีย เพราะสถานการณ์ในกรุงเทพฯ โดยปัจจุบัน มีชาวอินโดนีเซียในประเทศไทย ราว 1 พันคน

สื่อนอกข้องใจแกนนำคุมมือป่วนได้หรือไม่

 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า ยังคงมีการเจรจากันหลักฉาก แต่ก็ยิ่งทำให้เกิดข้อข้องใจเช่นกันว่า มีแกนนำเสื้อแดงคนใด ที่มีอำนาจควบคุมผู้ประท้วงอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพวกที่ออกไปก่อความไม่สงบ นักวิเคราะห์การเมืองคนหนึ่ง บอกว่า ทางออกตอนนี้คือการเจรจา หรือไม่อย่างนั้น ก็ต้องปราบปรามกันอย่างรุนแรงไปเลย ซึ่งต้องอาศัยกำลังทหารที่มากกว่านี้ และอาจจะกลายเป็นวันที่มืดมิดสำหรับประเทศไทย ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะก็ตาม

 ขณะเดียวกัน กลุ่มนิรโทษกรรมสากลในอังกฤษ ได้ออกมาตำหนิกองทัพไทยเรื่องการใช้กำลังอย่างรุนแรง ในการควบคุมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลตามท้องถนน โดยระบุว่า ทหารไทยละเมิดกฏหมายด้วยการยิงกระสุนจริงในหลายพื้นที่ นายเบนจามิน ซาวัคกี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องประเทศไทยของทางกลุ่มบอกว่า จากข้อมูลของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และวีดีโอที่บันทึกเอาไว้ได้ชี้อย่างชัดเจนว่า  ทหารยิงกระสุนจริงเข้าใส่ประชาชนที่ไม่มีอาวุธ และไม่ได้เป็นอันตรายทั้งต่อทหาร หรือบุคคลอื่น ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษษยชนข้อสำคัญ อย่างเรื่องสิทธิในการมีชีวิต

 ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานข่าวนี้บอกว่า รัฐบาลไทยอ้างว่า มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายหลายร้อยแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ทำร้ายประชาชน แต่ทางกลุ่มนิรโทษกรรมสากล กลับระบุว่า พลแม่นปืนของทหารเป็นผู้สังหารเจ้าหน้าที่พยาบาล 2 คน ซึ่งสวมเครื่องแบบทางการแพทย์สีขาว รวมทั้งเด็กวัย 17 ปีอีกคนด้วย

 ด้านประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโนโยโนแห่งอินโดนีเซีย ได้ส่งจดหมายถึงเวียดนาม ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของสมาคมอาเซียน เรียกร้องให้จัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำประเทศสมาชิก เพื่อออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศไทย

 นายยุดโดโยโน ซึ่งได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีลี เซียน หลุงแห่งสิงคโปร์ระบุว่า สมาคมอาเซียนจำเป็นต้องจุดยืนที่ไปในทิศทางเดียวกันและสร้างสรรค์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปัจจุบันที่โลกกำลังให้ความสนใจ ซึ่งคงไม่เป็นการดีแน่ ถ้าชาติสมาชิกจะไม่ทำอะไรเลย ก่อนจะเปรียบเทียบว่าสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประชุมกันในทันทีเพื่อช่วยเหลือสมาชิกอย่างกรีซ ที่ตกอยู่ในวิกฤติที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินมหาศาล และอาเซียนก็ควรต้องทำแบบเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ให้เอาชนะวิกฤติการเมืองที่เริ่มส่งผลต่อสถานการณ์ความมั่นคงแล้ว

 อย่างไรก็ดี ผู้นำอินโดนีเซีย ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการจะแทรกแซงกิจการภายในของไทย แต่จะเป็นการเหมาะสมสำหรับอาเซียนในการให้ความสนับสนุนรัฐบาลไทย ในการแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงความรุนแรง