
เส้นทาง"เสธ.แดง"บนถนนนปช.ก่อนถูกเจาะหัว
มีนายทหารไม่มากนักที่ช่วงสุดท้ายในวัยใกล้เกษียณจะกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพ ที่ที่ตัวเองเติบโตจากนายทหารเล็กๆ จนครองยศชั้นนายพล !?!
หนึ่งในนั้นมีชื่อ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 11 (ตท.11) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 22 (จปร.22) และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่นที่ 63
ชื่อเสียงของเขาเบิกทางเข้าสู่ยุทธจักรอย่างชัดเจน จากการเป็นคู่ปรับชนิดไม้เบื่อไม้เมากับ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต 2 ผู้นำตำรวจ เบ็ดเสร็จมีคดีฟ้องร้องรวมกันแล้วมากถึง 62 คดี ถึงขนาดถูกตำรวจกองปราบปรามบุกรวบตัวคาเครื่องแบบในโรงแรมดังมาแล้ว
พร้อมกันนี้ เสธ.แดงยังสะท้อนภาพนายทหารผู้เชี่ยวชาญอาวุธสงคราม การข่าวแม่นยำ และนักรบที่ผ่านสนามมาอย่างโชกโชน ทุกครั้งที่มีเหตุระเบิดป่วนเมืองจากเหตุขัดแย้งทางการเมือง เขาจะออกมาให้ข่าวชนิดวงลึกวงในจนหลายคนค้อนควักอย่างหมั่นไส้ในความยียวน
แม้แต่เหตุคาร์บ๊องย่านบางพลัดอันครึกโครม เสธ.แดงก็ออกมาวิจารณ์การทำงานของทีมคาร์บ๊องเป็นฉากๆ !?!
อย่างไรก็ดี แม้ในวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างนายทหารที่ชื่อ พล.ต.ขัตติยะ กับอดีตผู้นำอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะดูชื่นมื่นกลมเกลียว แต่ถ้าคนที่ความจำดีสักหน่อยคงจะนึกได้ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยวิพากษ์วิจารณ์ผู้ชายที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรีในยุคสงครามยาเสพติด จนเกิดการฆ่าตัดตอนนับพันศพ รวมถึงการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคดีปล้นปืนค่ายทหาร กองพันพัฒนา ที่ จ.นราธิวาส
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาดูเหมือนว่า พล.ต.ขัตติยะจะออกมาเคลื่อนไหวทุกครั้งที่มีความขัดแย้งทางการเมือง แม้ว่าเขาจะยืนยันนอนยันเสมอมาว่า เป็นทหารอาชีพก็ตาม
ระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยึดทำเนียบรัฐบาลในปี 2551 พล.ต.ขัตติยะก็เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกับกล่าวเตือนในทำนองให้ผู้ชุมนุมระมัดระวังตัวจากการโจมตีทุกรูปแบบ ไม่เช่นนั้นจะมีคนบาดเจ็บล้มตายทุกวัน สร้างความไม่พอใจให้บรรดาแกนนำคนเสื้อเหลืองอย่างมาก พร้อมกับข้อครหาที่ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสถานการณ์ในขณะนั้น
ต้องยอมรับว่า เสธ.แดงมีความสามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกแค้นเคืองได้อย่างน่าอัศจรรย์ !?!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นวิพากษ์ผู้นำกองทัพ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่นิ่งเฉยต่อประเด็นเขาพระวิหารและคนเสื้อเหลืองยึดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปี 2551 ด้วยถ้อยคำดุเด็ดเผ็ดมัน
ผลแห่งการแหกคอกครั้งนั้น เป็นเหตุให้เสธ.แดงถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ตามมาด้วยคำสั่งพักราชการในเดือนมกราคม 2553 ข้อหาวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา
ไม่นานนัก พล.ต.ขัตติยะก็ออกมาประกาศตัวชัดเจนในการยืนอยู่เคียงข้างคนเสื้อแดง และการยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหมือนเส้นทางเดินของ นพ.เหวง โตจิราการ ยังไงยังงั้น !?!
อาจเป็นเพราะถูกพักราชการเลยทำให้เสธ.แดงมีเวลามากพอ เดินสายไปให้กำลังใจและขึ้นเวทีปราศรัยเสื้อแดงทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีที่พร้อมจะรับเป็นแกนนำคนเสื้อแดงแทน 3 เกลอแบบไม่กระมิดกระเมี้ยน ยิ่งฉายภาพเจตจำนงของเสธ.แดงให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
เดือนมีนาคม พล.ต.ขัตติยะ เดินทางไปพบอดีตนายกฯ ทักษิณที่ดูไบ รายงานสถานการณ์การเมือง และการเตรียมความพร้อมในส่วนของกลุ่มฮาร์ดคอร์ เมื่อกลับมาก็เกิดปัญหากับ 3 แกนนำชนิดมองหน้ากันไม่ติด
ไม่ว่าจะอย่างไร ใครหลายคนที่ก้าวทันเกมการเมือง มองความขัดแย้งนั้นแบบขำๆ ไม่นานนักเสธ.แดงก็กลับมาอยู่พร้อมพรักกับ 3 แกนนำเช่นเคย แม้ในการปราศรัยระดมมวลชนเสธ.แดงจะไม่มีบทบาทมากนัก แต่ถ้าพูดถึงการเคลื่อนไหวลึกๆ แล้ว มีคนกล่าวว่า เขาคือ "แม่ทัพแดง" ตัวจริง
เหตุระเบิดป่วนเมืองรายวัน ทั้งเอ็ม 79 เอ็ม 67 ระเบิดแสวงเครื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น เกิดขึ้นนับร้อยครั้ง ชื่อแรกที่ถูกนำมาเชื่อมโยง คือ เสธ.แดง แม้ในชั้นนี้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ผู้นำกองทัพและผู้นำรัฐบาลต่างก็พากันเชื่อมั่นว่า นายทหารนักรบเกี่ยวพันด้วยแน่นอน
แม้แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเคยเอ่ยชื่อ พล.ต.ขัตติยะออกอากาศในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ " อย่างไม่กระดากปาก
ท้ายที่สุดในเหตุการณ์ 10 เมษา 53 ชื่อเสธ.แดงก็ถูกดึงมาเกี่ยวพันด้วยอีกครั้ง เมื่อ "เมธี อมรวุฒิกุล" หนึ่งในกลุ่มฮาร์ดคอร์ให้การพาดพิงถึงในฐานะผู้วางแผน
นับตั้งแต่นั้นมาชื่อชั้นของเสธ.แดงก็ถูกวางอยู่ในฐานะ "แกนนำเสื้อแดง" สายฮาร์ดคอร์เต็มตัว ท่ามกลางปัญหายืดเยื้อไม่รู้วันจบ เสธ.แดงระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แต่แล้ววันที่ 13 พฤษภาคม 2553 หรือ 2 เดือนนับตั้งแต่เสื้อแดงปักหลักชุมนุมมา เขาก็ถูกลอบยิงด้วยปืนไรเฟิล อาการเป็นตายเท่ากัน