หมอแจง'เสธ.แดง'ยังวิกฤติหลังผ่าตัด | คมชัดลึก

(14พ.ค.) ที่โรงพยาบาลวชิระ เวลา 10.00 น. นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.โรงพยาบาลวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล (รพ.วชิระ) แถลงข่าวความคืบหน้าการช่วยเหลือชิวิต พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล  หรือ เสธ.แดง หลังเข้ารับการผ่าตัดสมองเมื่อช่วงเช้ามือของวันนี้ (14 พ.ค.) ว่า หลังจากที่ เสธ.แดง ได้ถูกนำส่งไปที่ รพ.หัวเฉียว ได้มีการประสานเพื่อขอแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก รพ.วชิระ ไปร่วมประเมินการรักษา ซึ่งในขณะนั้นอาการ เสธ.แดงไม่ค่อยดีแล้ว ความดันโลหิตไม่มี แต่ที่มีความดันโลหิตขึ้นได้เพราะใช้ยากระตุ้น และสมองก็ได้รับความเสียหายสูง โดยถูกระสุนยิงเข้าหัว ทะลุด้านขวาออกซ้าย 1 นัด อีกทั้งยังมีภาวการณ์แข็งตัวของเลือดช้าหรือภาวะดีไอซี เพราะสมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยงและเสียเลือดรุนแรง ดังนั้นทางแพทย์จึงลงความเห็นและปรึกษาลูกสาว เสธ.แดง ว่า จำเป็นต้องย้ายมารักษาที่ รพ.วชิระ ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์และมีความพร้อมมากกว่า

หลังจากที่ รพ.วชิระ รับส่งต่อมาแล้ว ทางแพทย์ได้ให้การรักษาตามแผนที่วางไว้ คือ การให้ยาเพื่อช่วยภาวการณ์แข็งตัวของเลือด หรือรักษาภาวะดีไอซีก่อน และให้ยาพยุงความดันโลหิต ส่วนภาวะเลือดออกในสมองได้มีการผ่าตัดไปแล้วเมื่อคืนนี้ เพื่อนำเลือดคั่งในสมองออกก่อน เนื่องจากไม่สามารถรอจนภาวะดีไอซีดีขึ้ได้ ทั้งนี้หลังการผ่าตัดแพทย์ได้นำมาติดตามอาการต่ออย่างใกล้ชิดที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. โดยมีอาการดีขึ้น ความดันโลหิตดีขึ้น แต่ยังต้องใช้ยากระตุ้นความดันโลหิตอยู่ และยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจ และยังต้องเปิดกะโหลกไว้เพื่อให้สมองบวมขึ้น เพราะภาวะสมองบวมเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นในกรณีที่สมองได้รับความกระทบเทือนรุนแรง

“อาการทั่วไปสรุปได้ว่า ดีกว่าก่อนผ่าตัด แต่ยังอยู่ในภาวะวิกฤตพร้อมที่จะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ยังน่าห่วงอยู่ และอาการยังเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนจะถามว่าปลอดภัยหรือไม่นั้น คำว่าปลอดภัยเราจะยังไม่พูดในอีก 2-3 วันนี้ และจะหายเป็นปกติหรือไม่ เป็นเรื่องอนาคต เพราะเป้าหมายการรักษาขณะนี้คือเพื่อรักษาชีวิตเท่านั้น เพราะโอกาสรอดชีวิตขณะนี้ต่ำมาก” ผอ.รพ.วชิระ กล่าว และว่า ขณะนี้ เสธ.แดงยังไม่มีความรู้สึก มีเพียงการตอบสนองเจ็บลึก ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในภาวะวิกฤติเท่านั้น เพราะเป็นการตอบสนองเชิงพื้นฐานของสมองเท่านั้น ส่วนการสอบสนองอื่นๆ ไม่มี แต่ทั้งหมดก็ดีกว่าไม่มีการตอบสนอง อย่างไรก็ตามในการรักษาทางแพทย์ได้มีการพูดคุยกับญาติที่มาเฝ้าดูอาการตลอดเวลา รวมทั้งบุตรสาว 2 คน ของ เสธ.แดง ตั้งแต่ที่นำส่ง รพ.หัวเฉียวแล้ว เพราะผู้ป่วยวิกฤติมีโอกาสรอดต่ำอยู่แล้ว และมีโอกาสเสียชีวิตในช่วงส่งต่อมาที่ รพ.วชิระ ทั้งนี้ยืนยันว่า ทาง รพ.วชิระ ได้ช่วยเหลือเต็มที่ โดยเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง 7 คน และเป็นโรงพยาบาลที่เป็นธนาคารเลือด จึงมีความพร้อมเต็มที่

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเสียหายของสมองอยู่ในระดับใด มีการทำลายไปมากน้อยแค่ไหนจากกระสุนที่ยิง นพ.ชัยวัน กล่าวว่า ยังประเมินไม่ได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวของภาวะสมองขณะนี้ คือ ภาวะสมองบวมที่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งเรากำลังต่อสู้เรื่องปัญหาสมองบวมอยู่ ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บสมองจากอาวุธที่มีการทำลายสูงโอกาสรอดชีวิตต่ำอยู่แล้ว แทบจะไม่มีเลย เราจึงต้องลุ้นวันต่อวัน นาทีต่อนาที จึงต้องดูใหม่ทีละนาที และลุ้นว่าจะรอดชีวิตหรือไม่รอด ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการนำส่ง เสธ.แดง มาที่ รพ.วชิระทันที โอกาสในการักษาจะเพิ่มขึ้นนั้น นพ.ชัยวัน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีใครตอบได้ เพราะเป็นเพียงแค่การพูดและคาดหวังเท่านั้น

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้ทางดีเอสไอได้มีการประสานเพื่ออายัดตัวเสธ.แดงหรือไม่ นพ.ชัยวัน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติทางกฎหมาย ถือเป็นเรื่องของตำรวจที่จะดำเนินการในส่วนนี้ แต่ที่ผ่านมายอมรับว่าเราได้รับความร่วมมืออย่างดี ทางทุกฝ่าย และไม่มีผลกระทบต่อการักษาผู้ป่วยรายอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างสามารถพูดจากันได้หากเข้าใจ และวันนี้ทาง รพ.วชิระก็ยังให้บริการตามปกติ

 ด้าน นส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาว เสธ.แดง ได้เดินทางเฝ้าอาการของบิดาตั้งแต่ช่วงเช้า โดยอยู่ในสภาพอิดโรย เนื่องจากเฝ้าดูอาการของพ่อตลอดคืน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า บิดาได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และยังพักฟื้นอยู่โดยยังไม่รู้สึกตัว ซึ่งทั้งตนและบิดาก็มีกำลังใจดี แต่ไม่อยากให้สัมภาษณ์แล้ว และอยากให้จบแค่นี้ เพราะตอนนี้ครอบครัวได้รับความบอบช้ำมามากพอแล้ว 

 บรรยากาศที่ รพ.วชิระ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเข้ารักษาความปลอดภัยที่โรงพยาบาลวชิระ โดยมีผู้สื่อข่าวมาติดตามความคืบหน้าอาการ เสธ.แดง จำนวนมาก ซึ่งทาง รพ.พยาบาล ยังคงให้บริการรักษาประชาชนตามปกติ

เมื่อเวลา 03.30 น วันที่ 14 พฤษภาคม ที่บริเวณด้านหน้าอาคารเพชรรัตน์ รพ.วชิรพยาบาล นพ.ทศพร เสรีรัตน์ อดีตสส.จังหวัดแพร่ พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ว่า ทางคณะแพทย์ที่ทำการรักษาและผ่าตัดเสธ.แดง เป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เลือดประมาณ 10 ขวด และได้ดูผลการเอ็กเรย์ ผลการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยและราบรื่น ตอนนี้รอให้เสธ.แดง ฟื้นตัว เนื่องจากว่ายังอยู่ระหว่างการพักฟื้น ส่วนกระสุนที่พบมีอยู่ 2 รู ซึ่งถูกยิงบริเวณศรีษะด้านบนฝั่งขวาออกด้านล่างฝั่งซ้าย ทำมุมเฉียง อย่างไรก็ตามทางญาติได้มาดูแลและให้กำลังใจเสธ.แดง หลายคน โดยเฉพาะลูกสาวของเสธ.แดง ซึ่งตนขอชมเชยว่าลูกสาวของเสธ.แดง เข้มแข็งและมีสติดีมากคอยดูแลคุณพ่อตลอด

"ตอนนี้ต้องรอพักฟื้นระยะหนึ่ง ส่วนจะได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองมากน้อยแค่ไหน ต้องรอดูก่อน คาดว่าใช้เวลาสักพักว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ยังบอกไม่ได้ อย่างไรก็ตามในระยะนี้ต้องนอนรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู เพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากป้องกันการติดเชื้อหลังจากการผ่าตัด"นพ.ทศพร กล่าว

นพ.ทศพร กล่าวอีกว่า ตนอยากจะขอวิงวอนกับผู้ที่ลงมือกระทำในครั้งนี้ขอให้เสธ.แดง เป็นคนสุดท้าย และวิงวอนทุกฝ่ายยุติการกระทำอันรุนแรง และนิรโทษสกรรมให้กับทุกฝ่าย ส่วนกรณีของบ้านเลขที่ 111 ยังไม่มีใครโทรศัพท์มาสอบถามอาการ รวมทั้งไม่มีโทรศัพท์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาสอบถามเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางญาติได้มีการขอกำลังตำรวจมารักษาความปลอดภัยเสธ.แดงหรือไม่ นพ.ทศพร กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าทางญาติมีการร้องขอหรือไม่

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรไปถึงทางรัฐบาล นพ.ทศพร กล่าวอย่างหนักแน่นว่า นายกฯไม่ต้องยุบสภาแล้ว แต่ควรจะรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งได้แล้ว

ส่วนบรรยากาศบริเวณอาคารเพชรรัตน์ รพ.วชิรพยาบาล ได้มีบรรดาสื่อมวลชนเฝ้าสังเกตการณ์ทำข่าวความคืบหน้าของเสธ.แดง พร้อมกันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ โดยมีอาวุธครบมือคอยรักษาความปลอดภัยทั้งทางเข้าออกประตูรพ.วชิรพยาบาล รวมทั้งมีการตรวจเข้มบุคคลเข้าออกอย่างเข้มงวด

"แม้ว"ทวิตเตอร์ ประณามทหารใช้อาวุธหนักกับผู้ชุมนุม

เวลา 02.45 วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตเตอร์ @thaksinlive ระบุว่า"ผมขอประณามการใช้กำลังทหารและการใช้อาวุธหนักกับพี่น้องผู้ชุมนุมอย่างสันติจนเสียชีวิตไปหลายคนอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย"

"ผมเคยบอกว่าการปรองดองไม่ใช่เป็นเพียงภาษาสวยๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของใจเป็นธรรมมีเมตตาธรรม มีความจริงใจที่จะปรองดอง เห็นแล้วยังความโหดเหี้ยมใจดำ"

"ขอให้ระวังคนใจต่ำรอบกัดเอายาพิษปนกาแฟมาให้การ์ดกินตอนนี้ต้องหามส่งโรงพยาบาลไปเกือบสามสิบคนแล้วช่วงนี้ขอให้ระวังคนแปลกหน้าเอาอะไรมาให้กินครับ"

"แม่หนุ่มเสื้อแดง"ร่ำไห้รับศพลูกรพ.จุฬาฯ

เมื่อเวลา 02.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณสี่แยกวิทยุ ได้มีรถยานเกราะจำนวนหลายคัน วิ่งมาถนนพระราม 4 แยกวิทยุ จนถึงอาคารอื้อจือเหลียง โดยรถยานเกราะทหาร ได้ควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ซึ่งทางทหารพยายามกดดันผู้ชุมนุมให้ถอยล้นไป เพื่อนำรถยานเกราะเข้าไปประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมแยกราชประสงค์

ขณะที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ได้มี นางพร ขบวนงาม อายุ 50 ปี มารดาของ นายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี กลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตใกล้อาคารอื้อจือเหลียง เดินทางมาติดต่อขอรับศพลูกชาย โดยนางพร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนติดตามข่าวมาตลอดตั้งแต่ช่วงเย็น จนกระทั่งช่วงเวลา 01.00 น.ก็หลับๆตื่นๆดูข่าวทีวีก็ทราบว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตรู้สึกตกใจมาก จากนั้นได้นั่งรถมาจากดอนเมือง เพื่อมาดูศพลูกชาย ซึ่งที่ลูกชายมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ไม่มีลุกมีเพียงภรรยาเท่านั้น

นางพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาลูกชายชอบออกมาชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง ก่อนมาชุมนุมวันนี้ลูกชายก็ไปหาตนที่บ้านย่านดอนเมือง และก่อนเสียชีวิตช่วงค่ำลูกชายโทรศัพท์มาหาตนว่าเสธแดง ถูกยิงทำให้ลูกชายรู้สึกไม่พอใจจึงเป็นแนวหน้าร่วมชุมนุม จนมาถูกยิงเสียชีวิต ขณะนี้ทางโรงพยาบาลจะอนุญาตให้นำศพออกตอนเช้า โดยจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดนาวงศ์ ย่านรังสิต ต่อไป