ยอดรถยึดวูบหนุนราคาขยับ10%สหการประมูลจับมือพันธมิตรตรึง | คมชัดลึก

 น.ส.เสาวลักษณ์ ชัยเดชสุริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์มือสองในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ว่า ธุรกิจประมูลมีการแข่งขันกันสูงมาก ขณะที่จำนวนรถยนต์มือสองที่ถูกยึดจากสถาบันการเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อโดยตรง เนื่องจากเมื่อสินค้ามีจำนวนน้อยลง จะทำให้ราคาแพงขึ้นตามกลไกตลาด ดังนั้น ในช่วงนี้ปัญหาดังกล่าวมีส่วนทำให้ลูกค้าต้องซื้อรถมือสองแพงขึ้นประมาณ 5-10% ต่อคัน เพราะมีการแข่งราคาประมูลกันมากขึ้น ทั้งลูกค้าที่เป็นพ่อค้าและกลุ่มผู้ใช้รถยนต์มือสอง

 สำหรับสาเหตุที่รถยนต์ยึดมีจำนวนน้อยลง เป็นผลจากสถาบันการเงินต่างๆ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับนโยบายในการประนอมหนี้แทนมาตรการยึดรถมาขายทอดตลาด ทำให้จำนวนรถยนต์มือสองที่เป็นสินทรัพย์จากไฟแนนซ์นั้น ไม่มากเหมือนกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจัยดังกล่าวก็ไม่ใช่ปัญหาที่กระทบต่อธุรกิจประมูลมากนัก เนื่องจากยังมีสินค้าประเภทอื่นๆ เข้ามาทดแทน เช่น รถบ้านที่เจ้าของต้องการขายเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ให้ความสนใจส่งประมูลขายเพิ่มขึ้น

 "จำนวนรถยึดที่น้อยลงและราคาเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้ออย่างแน่นอน บริษัทจึงเร่งเจรจากับไฟแนนซ์ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในการกำหนดราคาเริ่มต้นประมูลให้ต่ำลงเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า โดยมาตรการตรึงราคาขายให้ต่ำกว่าท้องตลาดนี้น่าจะใช้ได้กับการขายในรูปแบบการประมูลเท่านั้น เนื่องจากรถยนต์มือสองที่ถูกยึดนั้น ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการผลกำไรจากการขายมากนัก แต่ต้องการขายให้คุ้มกับมูลค่าหนี้เท่านั้น" น.ส.เสาวลักษณ์กล่าว

 ทั้งนี้ ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ บริษัทกำหนดให้มีการประมูลขายรถยนต์มือสองขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ จ.เชียงใหม่กว่า 200 คันซึ่งผู้ที่สนใจร่วมประมูลซื้อสามารถขอรายการรถยนต์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0-2934-7344-8