แปรรูป"ปลาหัวโม้ง"แดดเดียวเสริมรายได้ชุมชนริมเลสาบ | คมชัดลึก

 แต่สำหรับชาวบ้านริมฝั่งทะเลสาบพัทลุงในพื้นที่ ต.จองถนน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง กลับมีรายได้ในช่วงหน้าแล้งด้วยการเร่งแปรรูปปลาหัวอ่อนหรือที่ชาวพัทลุงและใกล้เคียงรู้จักกันในนามปลาหัวโม้ง เป็นปลาแดดเดียวส่งจำหน่าย จนไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง

   สมจิตร ไชยรัตน์ อายุ 56 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มีรายได้จากการแปรรูปปลาหัวอ่อนขายสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ บอกว่า อาศัยช่วงหน้าแล้งเร่งแปรรูปปลาหัวอ่อนแดดเดียวขาย เพราะในช่วงอากาศร้อนเป็นช่วงที่เหมาะที่จะแปรรูปปลาแดดเดียว ซึ่งในแต่ละวันแปรรูปปลาหัวอ่อนได้ประมาณ 200-300 กิโลกรัม โดยจะแปรรูปปลาหัวอ่อนวันต่อวันแล้วส่งขายให้แม่ค้าในพื้นที่มารับซื้อถึงบ้านในราคากิโลกรัมละ 60 บาท สร้างรายได้ต่อวันประมาณ 300-400 บาท และช่วงเทศกาลที่ผ่านมาปลาหัวอ่อนแดดเดียวได้รับความนิยมจากผู้บริโภคซื้อเป็นสินค้าฝากเพื่อนๆ เพราะปลาหัวอ่อนแดดเดียวเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของ จ.พัทลุง

 “ทั้งนี้เพราะปลาหัวอ่อนหรือปลาหัวโม้งมีรสชาติหวาน เนื้อนุ่ม และเป็นปลาที่สามารถหาได้เพียงในทะเลสาบพัทลุงแห่งนี้เท่านั้น โดยทะเลสาบพัทลุงตั้งอยู่ในเขต จ.พัทลุง สงขลาและนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ประมาณ 1,040 ตารางกิโลเมตร หรือ 653,775 ไร่ เป็นทะเล 3 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำกร่อย น้ำจืด ปลาหัวอ่อนจะชุกชุมมาก” สมจิตรเผย

 ขั้นตอนการแปรรูป สมจิตรบอกว่า การทำก็ไม่ยุ่งยากเพียงนำปลาหัวอ่อนหรือปลาหัวโม้งที่รับซื้อจากชาวประมงในพื้นที่ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท โดยจะรับซื้อแล้วนำมาผ่าหลังตัดเอาหัวปลาออก จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาดก่อนที่จะหมักด้วยเกลือเพียงเล็กน้อย แล้วนำไปตากแดดเพียงแดดเดียว ก็สามารถส่งขายได้แล้ว

  สมจิตรย้ำด้วยว่า ทุกส่วนของปลาหัวอ่อนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าส่วนของหัวปลาจะนำไปเป็นอาหารของปลาดุก และพุงปลาจะนำไปเป็นอาหารของเป็ด ที่ตัวเองเลี้ยงปลาดุกไว้จำนวน 2 บ่อ และเลี้ยงเป็ดไว้ 40 ตัว ทำให้ลดต้นทุนเรื่องอาหารได้อีกด้วย

 ปลาหัวอ่อนหรือปลาหัวโม้งแดดเดียว นับเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของ จ.พัทลุง ที่มีรสชาติอร่อย สร้างรายได้อย่างงามให้ชาวบ้านริมทะเลสาบพัทลุงมาอย่างยาวนานในช่วงหน้าแล้งของทุกปี

กันยา ขำนุรักษ์