สหรัฐส่ง“สุวิทย์ ประสพรัตน์”แก๊งค์ค้าผงกลับไทย | คมชัดลึก

(10พ.ค.) ประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง เวลา 11.00 น. นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ อธิบดีอัยการคดียาเสพติด พร้อมด้วย พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจามานนท์ ผู้บัชญการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( ผบช.ปส.)  พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ ผบก.ปส.4  และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งตัวนายสุวิทย์ หรือเชง  ประสพรัตน์ นักค้ายาเสพติดประเภทเฮโรอีนข้ามชาติแก๊งค์ 14 K ซึ่งเป็นกลุ่มค้ายาในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามคำร้องขออัยการสูงสุดที่ยื่นไปตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2544

 โดยนายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด กล่าวว่าเมื่อวันที่ 5 ก.พ.44 พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการสอบสวน บก.ปส. ส่งสำนวนที่นายทวีวิทย์ หรืออู๊ด ไกรรัตนฤกษ์ ร่วมกับนายสุวิทย์ หรือเชง ประสพรัตน์ กับพวกรวม 6 คน ดำเนินคดีฐานมีเฮโรอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่รับอนุญาต จำนวน 3 กิโลกรับเศษ หรือจำนวน 3,650 กรัม ที่เตรียมจะส่งไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคดีดังกล่าวอัยการคดียาเสพติด มีความเห็นสั่งฟ้องทั้งหมด แต่เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 6 คนหลบหนี จึงมีหนังสือแจ้งถึง ผบ.ตร.ให้ดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีภายในอายุความ 20 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ กระทั่งวันที่ 23 ก.พ.44 สตช.มีหนังสือแจ้งว่านายสุวิทย์ หรือเชง หลบหนีไปอยู่ที่สหรัฐ ฯ อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง จึงมีหนังสือลงวันที่ 9 มี.ค.44 ถึงกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ทางการสหรัฐ ฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งศาลชั้นต้นของสหรัฐ ฯ พิพากษาให้ส่งตัวได้ แต่นายสุวิทย์ใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์เมื่อปี 2545  โดยศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ส่งตัวอีกเช่นกัน แล้วนายสุวิทย์ได้ยื่นฎีกาจนเมื่อวันที่ 19 เม.ย.53 ผู้แทนทางการสรัฐ ฯ ได้แจ้งผลการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนโดยให้ทางการไทยรับตัวกลับภายในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ซึ่งอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ได้มอบหมายให้นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สตช. นำตัวนายสุวิทย์กลับมาถึงเมื่อเช้าวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนี้ ผบช.ปส. จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อควบคุมตัวและสอบคำให้การนายสุวิทย์ต่อไป ก่อนจะนำตัวส่งอัยการคดียาเสพติดเพื่อยื่นฟ้องคดีอาญาต่อไป

 ขณะที่นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ อธิบดีอัยการคดียาเสพติด กล่าว่า สำหรับผู้ต้องหาร่วมกับนายสุวิทย์นั้น คือนายบุญส่ง หรือส่ง เมฆพงษ์สาธร หรือธวัช หรือธนัช ยุวนิช อายุ 60 ปี ที่หลบหนีไปประเทศสหรัฐ ฯ เช่นกัน แต่สามารถติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยได้ก่อนนั้น อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาธนบุรีไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2548 ซึ่งศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ นอกจากนี้อัยการยังได้ยื่นฟ้องนายทวีวิทย์ หรืออู๊ด ไกรรัตนฤกษ์ อายุ 46 ปี และนายคมศักดิ์ กรจำรัสสกุล อายุ 50 ปี ( เสียชีวิตแล้วระหว่างอุทธรณ์ )  เป็นจำเลยที่ 1-2 ต่อศาลอาญาธนบุรี เมื่อ 27 มิ.ย. 2544 ซึ่งศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และกำลังอุทธรณ์คดีเช่นกัน

 ด้าน พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจามานนท์ ผบช.ปส. กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำตัวนายสุวิทย์ ไปยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังไว้เป็นตามกฎหมายผลัดแรกเป็นเวลา 7 วัน ขณะที่คดีสามารถยื่นฝากขังไว้ 7 ครั้ง 84 วัน เพื่อดำเนินการสอบคำให้การตามขั้นตอนกฎหมายก่อนส่งตัวให้อัยการยื่นฟ้อง สำหรับเครือข่ายค้าเฮโรอีนของนายสุวิทย์นั้น เกิดเหตุเมื่อปี 2541 ที่ บช.ปส. ได้จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมเฮโรอีน จำนวน 126 กิโลกรัม ที่เตรียมส่งต่อไปที่สหรัฐ ฯ ดังนั้นหน่วยงานปฏิบัติการเกี่ยวกับยาเสพติดของสหรัฐ ฯ ประจำประเทศไทย หรือ  DEA ได้ร่วมสืบสวนสอบสวนกับ บช.ปส. กระทั่งปี 2543 ทราบว่านายสุวิทย์ ที่เป็นคนไทยแต่มีหนังสือเดินทาง ( พาสปอร์ต) ระบุถิ่นฐานที่สหรัฐ ฯ มี 2 สัญชาติ และกลุ่มนายสุวิทย์อยู่ในเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดฝั่งประเทศจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง หรือ แก๊งค์ 14 K ที่มาใช้ประเทศไทยเป็นถิ่นฐานที่จะก่ออาชญกรรมอื่นอีก เช่น การค้าอาวุธสงคราม การค้ามนุษย์  ยาเสพติดและอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้แก๊งค์ 14 K ยังมีกลุ่มอยู่ในประเทศไทย  เป็นผู้สั่งการนำส่งเฮโรอีนไปสหรัฐ ฯ จึงมีการดำเนินการแล้วเมื่อปี 2544 ทางการไทย กับสหรัฐ ฯ ประสานข้อมูลได้จนแน่ชัดแล้วจึงขออนุมัติออกหมายจับนายสุวิทย์ และนายบุญส่ง ขณะที่ระหว่างนั้นปี 2544 ทราบว่านายสุวิทย์ ยังได้ติดต่อกับกลุ่มค้ายาเสพติด ที่จะส่งเฮโรอีนไปสหรัฐ ฯ อีก 12 ก้อน น้ำหนัก 4 กิโลกรัมเศษ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้แล้วจึงติดตามหาที่อยู่นายสุวิทย์ได้ว่าพักที่สหรัฐ ฯ จนมีการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าว 

 อย่างไรก็ดีสำหรับพฤติการณ์ที่นายสุวิทย์กับพวก ร่วมกับแก๊งค์ 14 K ใช้ประเทศไทยเป็นถิ่นฐานก่ออาชญกรรมอื่นอีกนั้น จะได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากพยานหลักฐานและสำนวนที่มีอยู่ ในความผิดการฟอกเงินและข้อหาอื่นๆ ที่จะมีขึ้นได้ในอนาคตต่อไป

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกับนายสุวิทย์และพวก อีก 2 คน คือนายสุชาติ หรือตี๋ รัก แรง นั้นอยู่ระหว่างติดตามตัวเพราะหลบหนี และนายเกรียงไกร เดี่ยวตระกูล ขณะนี้ถูกคุมขังคดีอื่นของศาลจังหวัดแม่สาย ที่พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต