
จลาจลในกรีซเผาธนาคารพนักงานตาย3
พนักงานธนาคารตาย 3 คนในกรีซเพราะพวกก่อจลาจลเผาธนาคารแล้วห้ามเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟ
(6พ.ค.) การจลาจลที่เกิดจากความไม่พอใจต่อมาตรการเคร่งครัดใหม่ๆที่รัฐบาลกรีซกำลังจะนำมาใช้โดยคาดว่าจะผ่านการลงมติของรัฐสภาในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต3 คนแรกเมื่อวันพุธ ในธนาคารแห่งหนึ่งของกรุงเอเธนส์ที่ถูกจุดไฟเผา พนักงานธนาคารชายหนึ่งคนและหญิงสองคนวัยระหว่าง 32-36 ปี เสียชีวิตเพราะสำลักควันไฟหลังจากผู้ประท้วงเผาธนาคารและในขณะที่เพื่อนร่วมงานพากันร่ำไห้อยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถช่วยอีก 4 คนได้จากบนระเบียง หัวหน้าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุด้วยว่า ผู้ประท้วงพากันขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปที่ธนาคาร จนเสียเวลาอันมีค่าที่จะช่วยชีวิตพวกเขา
ประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูไลอาสแสดงความเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต และเตือนว่าประเทศกำลังจะพลัดตกเหวลึก เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของชาวกรีกที่จะทำให้แน่ใจว่าประเทศจะไม่ก้าวลงเหว ขณะที่นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอูแถลงที่รัฐสภาระหว่างหารือเรื่องตัดรายจ่าย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้มาตรการเหล่านี้ พร้อมระบุว่าการประท้วงกับการฆาตกรรมเป็นคนละเรื่องกัน ขณะที่สมาชิกสภายืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต 1 นาที
เหตุร้ายเกิดขึ้นหลังจากผู้คนประมาณ 100,000 คนออกมาประท้วงตามท้องถนนในช่วงนัดหยุดงานทั่วประเทศที่ทำให้ไม่มีเที่ยวบินเข้าออก ปิดการให้บริการงานสาธารณะทั้งหมด และไม่มีการรายงานข่าวออกอากาศ ผู้ประท้วงหลายร้อยคน ซึ่งรวมทั้งผู้สนับสนุนของพรรคขวาสุดขั้ว แยกตัวจากการประท้วงไปพยายามบุกรัฐสภา ขณะที่กลุ่มนิยมอนาธิปไตยใช้ระเบิดขวดและก้อนอิฐบนบาทวิธีขว้างปาใส่อาหารและตำรวจซึ่งตอบโต้ด้วยแก็ซน้ำตา
มีพลเรือน 15 คนและตำรวจ 29 นายได้รับบาดเจ็บเมื่อวันพุธ ซึ่งนายมิชาลิส คริสโซฮอยเดสรัฐมนตรีปกป้องพลเรือนเรียกว่า"วันอันมืดมนต์ของประชาธิปไตย"มีคนถูกจับ 12 คนที่กรุงเอเธนส์ และอีก 2 คนที่นครเทสซาโลนิกี ซึ่งเกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงเช่นกัน
กรีซมีกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 19 พฤษภาคมซึ่งรัฐบาลเปิดเผยว่าไม่อาจชำระหนี้ได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ รัฐบาลนำมาตรการประหยัดครั้งใหม่มาใช้ รวมทั้งการตัดลดเงินเดือนและเงินบำนาญสำหรับข้าราชการพลเรือนกับขึ้นภาษีผู้บริโภค อันเป็นเงื่อนไขเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินกู้ช่วยเหลือ 110,000 ล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และสมาชิกสหภาพยุโรปอีก 15 ชาติที่ใช้เงินยูโร
ชาวกรีกจำนวนมากเข้าใจว่ามาตรการเหล่านี้มีความจำเป็นเพื่อกอบกู้ประเทศที่มีหนี้สินมหาศาลถึง 300,000 ล้านยูโร ให้รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ และคนส่วนใหญ่ยังไม่มีปฏิกิริยา แต่เมื่อผู้คนเริ่มลำบากจากมาตรการต่างๆก็เริ่มมีความโกรธคุกรุ่น และแม้การประท้วงรุนแรงมีขึ้นเป็นเป็นประจำในกรีซ แต่ส่วนใหญ่เป็นการปะทะระหว่างตำรวจกับพวกหนุ่มสาวผู้นิยมอนาธิปไตย ซึ่งแทบไม่ค่อยมีผู้บาดเจ็บสาหัส
การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการประท้วงในรอบ 20 ปี สร้างความช็อคให้มติมหาชนและอาจส่งผลต่อการประท้วงอื่นๆในอนาคต ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าชาวกรีซยังจะต้องเผชิญกับชีวิตยากลำบากกว่านี้อีกหลายปี เพียงเพื่อให้มีโอกาสที่ประเทศจะไม่ล้มละลาย
ขณะเดียวกัน ก็มีความวิตกว่ามาตรการของรัฐบาลกรีซจะไม่อาจยับยั้งวิกฤตหนี้สินไม่ให้ลุกลามไปยังชาติสมาชิกอียูอื่นๆที่มีปัญหาทางการเงินอยู่ เช่น โปรตุเกสกับสเปน ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน"มูดี้'ส" ได้จัดอันดับให้โปรตุเกสอยู่ในขั้นเฝ้าดูเพื่ออาจ
ลดอันดับลง