
อนาถยิ่งกว่าผู้ป่วย'อนาถา'
เพียงไม่กี่อึดใจที่ "พายัพ ปั้นเกตุ" แกนนำเสื้อแดงพาการ์ดแดงบุกค้น รพ.จุฬาฯ จนกลายเป็นข่าวอัปยศไปทั่วโลกทันที ด้วยภาพที่ปรากฏเห็นได้ชัดว่าแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยถูกคุกคามอย่างหนัก จนต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปอยู่โรงพยาบาลอื่นอย่างทุลักทุ
แต่ความจริงที่หดหู่ยิ่งกว่า คือ ความเป็นอยู่ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐที่ย้ายไปนั้น อนาถยิ่งกว่าความเป็นอยู่ของผู้ป่วยอนาถา เนื่องจากโรงพยาบาลรัฐแห่งอื่นๆ เองก็มีผู้ป่วยล้นอยู่แล้ว ยิ่งต้องมารับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เลยต้องจัดที่อยู่ให้เท่าที่จะทำได้
ภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยจาก รพ.จุฬาฯ ถูกนำเสนอผ่านกลุ่มแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก เว็บไซต์ เว็บบล็อก ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก ยิ่งเป็นการตอกย้ำความอัปยศอดสูใจแก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะนายแพทย์ รพ.จุฬาฯ ท่านหนึ่งที่ถ่ายทอดความเดือดร้อนของผู้ป่วย และโพสต์ไว้ในอัลบั้มรูปส่วนตัวกว่า 10 ภาพ บ่งชี้ว่าผู้ป่วยที่ปกติก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยอยู่แล้ว ยังถูกทับถมจากความเป็นอยู่ที่แสนเลวร้ายหนักเข้าไปอีก
ภาพแสดงให้เห็นความเป็นอยู่ของผู้ป่วยในห้องเล็กแคบที่ปราศจากเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์อย่างที่ควรจะเป็น ไม่มีเตียง ผู้ป่วยต้องนอนกับเบาะที่ปูบนพื้นห้องคอนกรีต มีเสาน้ำเกลือวางอยู่ข้างๆ พร้อมสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง แต่ละคนมีท่าทางอิดโรยปรากฏบนสีหน้าแววตา รวมถึงความตื่นตระหนกที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ จากคืนวันก่อน หลายคนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย โดยเฉพาะผู้ป่วยชราและทารก
แต่ภาพที่สลดใจยิ่งกว่า คือ ทารกตัวน้อยๆ ในชุดผู้ป่วยที่หลับใหลไปด้วยความอ่อนล้า โดยมีแม่และแพทย์พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด !?!
ส่วนบุคลากรทางการแพทย์เองก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ป่วย อุปกรณ์ช่วยเหลือและเครื่องมือแพทย์ถูกวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ เพราะต้องขนย้ายมาอย่างฉุกละหุก ไม่มีเคาน์เตอร์ ไม่มีโต๊ะทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวกมีเพียงเก้าอี้พลาสติกตัวเล็กๆ เอาไว้นั่งพักผ่อนเท่านั้น
ภาพชุดนี้ตอกย้ำได้ดีถึงความยากลำบากของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ มีคนเข้ามาแสดงความเห็นใจต่างๆ นานา บ้างก็แสดงถึงอาการหดหู่ และตำหนิการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ส่งผลให้สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้น
พร้อมกันนี้ กลุ่มแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชุมชนและโรงเรียนแพทย์ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงผ่านเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยมีเนื้อหาว่าสืบเนื่องมาจากได้มีกลุ่มชุมนุมคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งบุกรุกเข้าไปใน รพ.จุฬาลงกรณ์ และเข้าไปในอาคารหอผู้ป่วยของโรงพยาบาล โดยอ้างว่าต้องการเข้าไปตรวจค้นว่ามีทหารซุกซ่อนอยู่หรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความตื่นตระหนกต่อผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั้งในประเทศไทยและในอารยประเทศอื่นทั่วโลก กลุ่มบุคลากรด้านการสาธารณสุขขอเรียนชี้แจงต่อประชาชนทุกฝ่ายว่า
1.ตามกติกาสากลที่ทุกประเทศยึดถือนั้น กลุ่มผู้ป่วย กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ให้การรักษาพยาบาล ย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยทุกราย โดยไม่เลือกสถานภาพของผู้ป่วยอยู่แล้ว แม้จะมีความแตกต่างด้านเชื้อชาติ ศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง
2.ผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์ตลอดจนตัวสถานที่โรงพยาบาล สมควรได้รับสิทธิยกเว้นจากทุกฝ่ายให้อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง ไม่สมควรได้รับการแทรกแซง หรือเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือกระทำการใดๆ อันจะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่ เพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วยได้
3.ขอวิ่งวอนให้ทุกฝ่ายเคารพกติกากฎระเบียบของบ้านเมือง และขอให้ทุกฝ่ายมีสติมีศีลธรรมคุณธรรมและจริยธรรมอยู่ในใจของตนเอง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองต่อไป โดยมีแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายร่วมลงชื่อหลายร้อยราย
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนได้ใช้มือถือถ่ายรูปเบี้องหลังความลำบากทุกข์เข็ญของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ทยอยโพสต์ลงเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดคุกคามผู้ป่วย แพทย์และโรงพยาบาล ซึ่งเป็นหลักสากลของทุกประเทศในโลกนี้