ข่าว

"แต้ม"เจรจาแดงขอรื้อถอนแนวกั้นม็อบ

"แต้ม"เจรจาแดงขอรื้อถอนแนวกั้นม็อบ

23 เม.ย. 2553

ผบก.น.1 เตรียมเจรจาแกนนำนปช. ขอรื้อถอนแนวกั้นเสื้อแดงที่แยกศาลาแดง พร้อมสั่งตำรวจถอยออกจากแยกสารสิน เพื่อเลี่ยงตร.-เสื้อแดงปะทะ

(23เม.ย.) เวลา 08.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 เดินทางมาเจรจากับกลุ่มเสื้อแดง โดยขอให้รื้อถอนสิ่งกีดขวางที่แยกศาลาแดง และถอยร่นออกไปถึงแยกสารสิน แต่นายขวัญชัย ไพรพนา ได้แจ้งว่าจะถอนร่นผู้ชุมนุมไปยังบริเวณแยกสารสิน แต่ไม่สามารถจะรื้อถอนสิ่งกีดขวางได้ ตนมีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มเสื้อแดง พล.ต.ต.วิชัย จึงได้กล่าวตอบไปว่า ขอให้ถอยร่นกลุ่มผู้ชุมนุมไปก่อน และตนจะเข้าไปเจราจกับนายณัฐวุฒิเอง

 จากนั้นพล.ต.ต.วิชัย ได้ขึ้นไปยังรถขยายเสียง โดยได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่าตำรวจไม่ได้มาสลายการชุมนุม หรือมายึดพื้นที่คืน แต่เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการกระทบกระทั่งกับระหว่างคนเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อหลากสี ซึ่งผู้บังคับบัญชาไม่อยากให้เกิดปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งกันอีก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้คนเสื้อแดงถอยออกจากแนวกั้นประมาณ 100 เมตร จากนั้นตนจะเดินทางไปเดินทางไปเจรจากับแกนนำนปช. เพื่อดำเนินการดำเนินในเรื่องนี้ต่อไป ส่วนตำรวจนั้นตนจะสั่งให้กลับไปทั้งหมด ขอให้คนเสื้อแดงเบาใจได้ว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุม

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๊งดอกจิก แจ้งกลับไปยังพล.ต.ต.วิชัยว่าการจะให้คนเสื้อแดงถอยก่อนทำไม่ได้ เพราะมวลชนคงจะไม่ยอม ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอยก่อน ตนจึงจะสั่งให้คนเสื้อแดงถอยกลับได้ ดังนั้นพล.ต.ต.วิชัย จึงแจ้งว่าเอาเป็นว่า "เราต่างคนต่างถอย" จะไม่ได้มีปัญหา จากนั้นพ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้สั่งให้ตำรวจถอยกลับไป 5 ก้าว ทำให้คนเสื้อแดงส่งเสียงร้องชอบใจ พล.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า ตนอยู่กับพวกท่านมาตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้มีการสูญเสียอีก เพราะขณะนี้มีผู้ไม่หวังปะปนเข้ามา ดังนั้นขอให้คนเสื้อแดงช่วยดูคนข้างๆตนเองด้วยว่ารู้จักหรือไม่ ถ้าไม่รู้จักก็ให้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ได้

 จากนั้น 08.40 น. พล.ต.ต.วิชัย สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยกลับที่ตั้ง พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนพูดคำไหนคำนั้น เมื่อสั่งให้ตำรวจถอยกลับที่ตั้งแล้ว ก็ขอให้คนเสื้อแดงกลับเข้าไปในแนวของตนเอง เพื่อให้การจราจรสามารถเคลื่อนไหวตัวได้ และจะได้ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 กองร้อย ตั้งแนวอยู่เกาะกลางถนนบริเวณแยกสารสิน ซึ่งเป็นจุดที่ประจันหน้ากับกลุ่มเสื้อแดงในบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งประกาศว่าให้ผู้ชุมนุมถอยล่นเข้าไปจนถึงแยกสารสิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของคนเสื้อแดงที่ตั้งเอาไว้ แต่ทางกลุ่มเสื้อแดงไม่ยอมตามคำเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 โดยนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานกลุ่มคนรักอุดร จึงตัดสินใจเดินข้ามฝั่งมายังบริเวณเกาะกลางถนนเพื่อเจราจกับตำรวจ โดยขอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่าเพิ่งรื้อสิ่งกีดขวางดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้ ดังนั้นจึงขอประสานไปยังแกนนำนปช.ก่อน และจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนประมาณ 20 นาย เดินเข้าไปบริเวณแนวกั้นของคนเสื้อแดง จึงหยิบไม้ไผ่ปลายแหลมจากแนวกั้นของกลุ่มคนละชิ้น และเดินกลับมาที่บริเวณเกาะกลางถนน ทำให้คนเสื้อแดงส่งเสียงโวยวาย และแสดงความไม่พอใจ ทั้งนี้กลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้เดินขึ้นไปบนสะพานข้ามไทย-ญี่ปุ่น เนื่องจากเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปประจำอยู่ที่บริเวณบนสะพาน ซึ่งอาจจะทำอันตรายกับกลุ่มคนเสื้อแดงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่แยกราชประสงค์ ในช่วงเช้าวันนี้ว่า สภาพหลังเวทีและการชุมนุมโดยรวมอยู่ในสภาวะที่ตึงเครียดจากเหตุการณ์คืนที่ผ่านมา และหวั่นเกลงว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กำลังสลาย โดยล่าสุด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ได้ขึ้นประกาศว่า บริเวณแยก ศาลาแดง สวนลุมพินี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งด่านเตรียมเข้าผลักดันกลุ่มผู้ชุม อย่างไรก็ตามก็ขอให้ยังมีผู้ชุมนุมคอยประจำอยู่หน้าเวทีหลัก เนื่องจากหวั่นว่า อาจมีการส่งกำลังเข้ามาสลาย หากมีผู้ชุมนุมเหลือน้อย นอกจากนี้นายณัฐวุฒิยังระบุว่า ในการแถลงข่าวช่วงเช้าตนมีหลักฐานที่จะเปิดเผยว่าเหตุการณ์ระเบิดที่สีลมใช่วงเช้าเป็นฝีมือของฝ่ายรัฐ

 ผู้สื่อขาวรายงานว่า วันนี้แกนนำคนสำคัญของนปช. อาทิ นายณัฐวุฒิ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง มาประจำการอยู่ทีเวทีตั้งแต่ช่วงเช้า ต่างจากทุกวันที่ผ่านมา ที่กว่าแกนนำจะเข้ามาริเวณหลังเวทีก็เป็นช่วงสาย

 นอกจากนี้ในที่ชุมนุมพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ได้ปรากฏตัว โดยโฆษกบนเวทีได้ประกาศยินดีต้อนรับ จากนั้น เสธ.แดงจึงได้ผ่านหลังเวที แต่ไม่ได้เข้าไปหาแกนนำที่อยู่ในบริเวณที่กั้นไว้เฉพาะ