ตีงูอย่าแค่หลังหัก | คมชัดลึก

เหตุนี้ หนึ่งในงานลำดับต้นๆ ของรัฐบาลใหม่ของคีร์กิซสถานก็คือเร่งกำจัดบริวารผู้ภักดีของงูหลังหักทันที ไม่ปล่อยไว้ให้กลายเป็นเสี้ยนหนามของแผ่นดินหันมาแว้งกัดประเทศชาติในภายหลัง จนทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพและสังคมไร้ความสงบสุขเหมือนแดนดินถิ่นแค่นยิ้มในขณะนี้

 กระบวนการกวาดล้างฐานอำนาจเก่าของอดีตประธานาธิบดีกูร์มานเบค บากิเยฟ ได้เริ่มขึ้น ทันทีที่นายบากิเยฟ ซึ่งได้เดินทางออกจากฐานที่มั่นในเขตภาคใต้ของประเทศไปพำนักชั่วคราวที่คาซัคสถาน ยอมเดินทางออกจากคาซัคสถานแล้วด้วยเครื่องบินขนส่งทางทหารที่รัสเซียจัดหาให้ มุ่งหน้าไปลี้ภัยการเมืองที่เบลารุส แลกกับการขอให้รัฐบาลใหม่เลิกจองล้างจองผลาญบรรดาลูกหลานและเครือญาติรวมแล้วหลายสิบชีวิต ในจำนวนนี้มีลูกชาย 2 คน พี่น้องอีก 5 คน และหลานๆ ผู้เป็นลูกของพี่น้องอีกหลายคน ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่กอบโกยเงินทองและอำนาจใส่ตัวช่วงที่นายบากิเยฟเรืองอำนาจ

 โดยเฉพาะนายซานีเบก บากิเยฟ น้องชายคนหนึ่งซึ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว หลังพี่ชายได้เป็นประธานาธิบดี ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจ ก่อนจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วจนสามารถคุมหน่วยงานด้านความมั่นคงไว้ในมือ เชื่อว่าเป็นคนสั่งการให้ตำรวจเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่กรูเข้าไปยึดสถานที่ราชการ 2 แห่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 คน

 ถึงจะถูกไล่ล่า แต่นายซานีเบก บากิเยฟ ยังคงทำหยิ่งว่าไม่ต้องการให้รัฐบาลใหม่มาช่วยดูแลความปลอดภัยให้ อ้างว่าทุกการกระทำของตัวเองและลูกน้องล้วนแต่ถูกต้องตามกฎหมาย

 เหตุนี้จึงไม่ต้องสงสัยแต่อย่างใดที่รัฐบาลใหม่ไม่ยอมทำตามเงื่อนไขของอดีตผู้นำที่ยังไม่ยอมสำนึกผิด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ทางการก็เริ่มต้นกวาดล้างกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับผู้นำรัฐบาลบากิเยฟ โดยเหยื่อรายแรกที่ถูกกวาดล้างได้แก่ นายบัคติเบค กาลิเยฟ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม

 หลังจากนี้ ทางการมีแผนจะจับกุมคนสำคัญในรัฐบาลเก่าอีกหลายสิบคน รวมทั้งเตรียมขอให้คาซัคสถานส่งตัวนายมูรัต บากิเยฟ บุตรชายคนโตของนายบากิเยฟ นายดานิยาร์ อูเซนอฟ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายมูรัต ซูตาลินอฟ อดีตหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองกลับไปดำเนินคดีในประเทศด้วย

 เรียกได้ว่าไม่ยอมให้งูหลังหักกลับมาแว้งกัดในภายหลังได้

บุญรัตน์  อภิชาติไตรสรณ์