ตร.บุกค้นรัง โอ ยี่เรือ รับจ้างดัดแปลง 'ปืนเถื่อน' ยึดของกลางสอบโยง เยาวชน 14

5 ต.ค. 2566  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8,พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ  นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 487/2566 ลงวันที่ 4 ต.ค.2566 เข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง บริเวณท้ายซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงกับคดีเยาวชน 14 ปี ใช้อาวุธปืนยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

 

 

หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่ผลิตและดัดแปลงอาวุธปืน บีบีกันและแบลงค์กัน พร้อมจับกุมนายวีรยุทธ  (สงวนนามสกุล)  หรือ โอ ยี่เรือ ชาว จ.ภูเก็ต อายุ 41 ปี ตรวจยึดอุปกรณ์สำหรับผลิตอาวุธปืนรวม 48 รายการ ประกอบด้วยกระสุนปืนขนาดต่างๆ หลายสิบนัด แม็กกาซีนกว่า 40 อัน ถังทดสอบอาวุธปืน 1 ถัง ยาไอซ์ 6 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ

 

 

 

 

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ได้ขยายผลการจับกุมผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่าสถานที่นี้ เป็นที่ผลิตปืนแบลงค์กัน และลำกล้อง รวมถึงแมกกาซีนบรรจุกระสุน และจากการตรวจค้น พบอุปกรณ์ชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ จากนั้นจึงจะทราบด้วยว่าผู้ก่อเหตุ ขายปืนมานานเพียงใด 

 

 

 

 

ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจนครบาล 8  จะสืบสวนขยายผลต่อว่าผู้ประกอบปืน รับอุปกรณ์ต่างๆ มาจากที่ใดและส่งขายที่ใดบ้าง ส่วนเรื่องคดีผู้ค้าอาวุธปืนให้กับเยาวชนผู้ก่อเหตุ ตำรวจจับกุมได้ 2 ราย จาก จ.ยะลา และล่าสุดจับกุมได้อีกรายที่ย่านดอนเมือง ทั้งหมดกำลังคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา"

 

 

 

 

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายวีระยุทธ์  ให้การว่าจบการศึกษาระดับชั้น ปวส.สาขาช่างยนต์ สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ก่อนทำงานเป็นช่างยนต์ และหันมาเล่นปืนบีบีกัน และด้วยที่มีความรู้เรื่องช่างและมีเพื่อนแนะนำให้ลองซ่อมดัดแปลงปืนบีบีกันให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงได้ จึงทดลองทำ ก่อนหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับ พร้อมย้ายมาเช่าที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทุ่งครุ มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 30,000 บาท โดยเงินที่ได้นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่าที่พัก และซื้อยาเสพติดมาเสพ

 

 

 

และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อปี 2558 นายวีระยุทธ์ เคยต้องคดีเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ ถูกศาลตัดสินจำคุกในเรือนจำบางบอนนาน 3 ปี และปีเดียวกันยังเคยต้องโทษคดีครอบครองแอมเฟตามีน ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง

 

 

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมายตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

จากการสอบถามชาวบ้านพบว่าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทราบว่านายวีระยุทธ์ มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ประมาณ 2 เดือน และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร  ทั้งยังปิดบ้านตลอด แม้แต่อาหารก็ต้องสั่งเข้ามากิน คนที่แวะเวียนเข้ามาหา ส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่รับ-ส่งพัสดุ แต่งกายสวมหมวกโม่งมิดชิด และมักจะมาเคาะประตูส่งเสียงดัง