ข่าว

เขมรถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทหลังปะทะเดือด

เขมรถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทหลังปะทะเดือด

18 เม.ย. 2553

ทหารไทย-กัมพูชารุดเจรจายุติเหตุปะทะเดือดชายแดนสุรินทร์ราบรื้น ขณะที่ทหารเขมรยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาท ส่วนทหารพรานหายไป 1 นาย ระหว่างการยิงสู้รบกับทหารกัมพูชา ล่าสุดพบตัวแล้วในสภาพปลอดภัย ส่วนการท่องเที่ยวช่องจอม-โอเสม็ดยังคึกคัก

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 2608 ฐานปฏิบัติการช้างดำ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายไทย กับ กองกำลังทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 402 กัมพูชา ที่บริเวณหลักเขตแดนที่ 13-14 ช่องโชกและช่องปลิง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตรงข้ามกับหมู่บ้านจ็อมกาเจก ซึ่งเป็นหมู่บ้านกันชนชายแดนก่อตั้งใหม่ ต.โอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ช่วงเช้าวันที่ 17 เม.ย.
ขณะที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และไปพบกับทหารกัมพูชา รุกล้ำเขตแดนไทย และปลูกสร้างบ้านเรือนในพื้นที่ชายแดน ที่ไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน จนเป็นเหตุให้ปะทะกันนานเกือบชั่วโมง โดยจุดปะทะห่างจากด่านถาวรช่องจอมไปทางทิศตะวันออกเพียง 8 กิโลเมตร และต่อมาได้เกิดการปะทะกันขึ้นอีก เป็นระลอกที่ 2 นานประมาณ 15 นาที

พ.อ.ชินกาจ  รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2  กล่าวว่า ทางพล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้มีการเจรจาร่วมกับ พ.อ.จุม สะไรย์ รองหัวหน้าสำนักงานกิจการชายแดนภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เพื่อยุติการยิงต่อสู้กันของทหารทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมประชุมสรุปความเสียหาย พร้อมทั้งให้ถอนกำลังออกนอกพื้นที่พิพาท และไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามายังเขตแดนไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และทางฝ่ายกัมพูชายินดีปฏิบัติตามข้อตกลง ขณะที่ ผบ.กกล.สุรนารี ได้ย้ำให้ทหารในพื้นที่ ทั้ง 2 ฝ่าย ห้ามมีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2

สำหรับสถานการณ์ในวันนี้ ( 18 เม.ย.) ทหารทั้ง 2 ฝ่ายก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งไม่มีความตรึงเครียดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ทหารไทยก็ยังคงลาดตระเวนตามพื้นที่ตามแนวชายแดนเช่นเคย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดระหว่างกัน และจากนี้ไปเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย ทำความเข้าใจกันแล้ว บรรยากาศก็จะดีขึ้น

ส่วนกรณีที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 2608 หายตัวไประหว่างการสู้รบกับทหารกัมพูชาจำนวน 1 นาย นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารไทยชุดเข้าเคลียร์พื้นที่หลังการสู้รบ ได้พบตัว ทหารพรานคนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเดินทางหลงป่า ขณะทำการสู้รบอยู่ในเขตแดนไทย ด้วยสภาพร่างกายที่ปลอดภัย โดยขณะที่เกิดการปะทะกันนั้น ได้หลบเพื่อหาที่ปลอดภัย จึงทำให้พลัดหลงกัน

ทั้งนี้ผู้นำทางทหารในพื้นที่ชายแดนทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ได้มีการนัดเจรจาหารือและร่วมรับประทานอาหารกันอีกครั้ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และเป็นการลดความตึงเครียดตามพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสร้างความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวต่อกัน โดยเฉพาะที่บริเวณ ตลาดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ต่อไป

ด้านพ.ต.ต.อนันต์  ทองสุข สารวัตร ด่านชายแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณด่านชายแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ยังคงมีนักพนัน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นปกติ โดยไม่หวาดกลัวและหวาดวิตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งการค้าขายในพื้นที่ก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ  ผิดจากทางกัมพูชา ซึ่งหากมีเหตุการณ์กระทบกันระหว่างประเทศชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขายบริเวณชายแดนไทยจะรู้ข่าวเร็วมาก และจะเร่งเก็บสินค้าปิดร้านกลับเข้าประเทศทันที

ส่วนมาตรการดูแลและรักษาความปลอดภัยบริเวณด่านชายแดนทางผู้บังคับบัญชาได้มีการกำชับให้มีการตรวจบุคคลที่เจ้าออกประเทศอย่างละเอียด และเข้มงวดมากขึ้นเพื่อเป็นการควบคุมการลักลอบเข้าเมือง และการก่อเหตุไม่สงบ