ข่าว

กทม.เร่งแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน

กทม.เร่งแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน

17 มี.ค. 2552

กรุงเทพมหานคร เร่งสำรวจจำนวนช้าง เก็บประวัติ และฝังไมโครชิพให้ช้างเร่ร่อนใน กทม. เพื่อแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการประชุมหารือแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนในกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานครจะร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองการตำรวจรถไฟ กรมปศุสัตว์ สำนักอนามัย เพื่อร่วมกันสำรวจจำนวนช้าง เก็บประวัติ และฝังไมโครชิพให้ช้างเร่ร่อนใน กทม. ซึ่งสำนักอนามัยจะเป็นผู้ดูแลโดยตรง และจะพร้อมใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองโรคระบาดสัตว์ปี 2499 และจะเสนอขอต่อศาลให้ปรับควาญช้างหรือเจ้าของช้าง ด้วยโทษสูงสุด คือ ปรับ 1 หมื่นบาท จำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากไม่พบใบอนุญาต ระบุตัวรูปพรรณ หรือช้างถูกทารุณ จะทำการยึดช้าง โดยจัดหาพื้นที่ดูแลช้าง ซึ่งจะประสานกับหน่วยงานทางทหารในพื้นที่ กทม. ให้เป็นพื้นที่พักช้างก่อนส่งคืนถิ่น
 โดยในระยะยาวจะประสานกับจังหวัดใกล้เคียง และกรมธนารักษ์ จัดหาพื้นที่ทำเป็นปางช้างให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและแก้ปัญหาควาญช้างไม่มีงานทำ
 ด้านน.ส.โซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยถึงข้อมูลสถิติจำนวนช้างในประเทศไทยในปี 2536 ว่า มีช้างบ้านกว่า 4,000 เชือก แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2,600 เชือกทั่วประเทศ ส่วน กทม.มีช้างเร่ร่อน อยู่ 200 เชือก โดยจะมีกระบวนการกว้านซื้อช้างในราคา 1-2 แสนบาท เพื่อให้เช่าหาผลประโยชน์ใน กทม. และขณะนี้ได้มีขบวนการลักลอบช้างจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตามชายแดน อย่างจ.แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกช้างอายุไม่เกิน 8 ปี และยังไม่ต้องจดทะเบียน มีการตีตั๋วรูปพรรณ จึงเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายในการดำเนินคดี
 ที่ผ่านมาได้มีการเสนอให้แก้กฎหมาย พระราชบัญญัติ 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. ปี 2482 ที่ระบุให้ช้างเป็นพาหนะ ซึ่งเป็นกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็น พ.ร.บ.ปี 2535 ให้ช้างเป็นสัตว์คุ้มครองประเภทที่ 1 จึงอยากให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ที่ว่าด้วยสัตว์พาหนะ เพื่อนำช้างออกจากฉบับนี้ แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ เนื่องจากมีการโต้แย้งการละเมิดสิทธิของเจ้าของช้างและควาญช้าง อย่างไรก็ตามตนเองหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ หากทุกภาคส่วนมีการร่วมมือกัน