ข่าว

ผู้ชุมนุม-ทหารบาดเจ็บ11รายที่ลาดหลุมแก้ว

ผู้ชุมนุม-ทหารบาดเจ็บ11รายที่ลาดหลุมแก้ว

09 เม.ย. 2553

รพ.ตำรวจวุ่นคนไข้ร้องขอย้ายออกหนีม็อบแดง กลุ่มสกลฯรักประชาธิปไตย 51 โวยรัฐบาลสั่งปิดพีเพิลชาแนล ร่วมชุมนุมปิดถนนหน้าศาลากลาง ขู่ระดมพลเข้าร่วมกทม. อีกกว่าหมื่นคน เครือข่ายพลังแผ่นดินชุมพรออกแถลงการณ์ 5 ข้อคัดค้านการยุบสภา-ให้กำลังใจรัฐบาล

(9เม.ย.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน รายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บจากการปะทะกันที่บริเวณสถานีบริการภาคพื้นไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว  จ.ปทุมธานี ล่าสุดมีผู้บาดเจ็บจำนวน 11 ราย โดยเป็นผู้ชุมนุมเอว 8 ราย และทหาร 3 ราย และได้นำส่งผู้บาดเจ็บไปที่ รพ.ประทุมธานี เรียบร้อยแล้ว โดยยังไม่ทราบรายละเอียดลักษณะอาการบาดเจ็บ

รพ.ตำรวจวุ่นคนไข้ร้องขอย้ายออกหนีม็อบแดง

 พล.ต.ท. นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์  แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ  ยอมรับว่า  มีผู้ป่วยและญาติคนไข้หลายสิบคนเริ่มบ่นถึงมลภาวะทางเสียงที่เกิดจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งยึดครองถนนราชประสงค์มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไข้ที่พักในห้องพักที่อยู่ติดถนนราชดำริ และถนนพระราม 1  ซึ่งรพ.ตำรวจ ก็พยายามเคลื่อนย้ายคนไข้เข้าไปอยู่ด้านในให้ห่างจากถนน ซึ่งขณะนี้ก็ยังพอมีห้องว่างอยู่บ้าง แต่ถ้าคนไข้ประสงค์ขอย้ายมากกว่านี้จนห้องแน่นคงรับไม่ไหว อย่างไรก็ตามเราเปิดโอกาสถ้าคนไข้หรือญาติประสงค์จะย้ายออกไปพักรักษาตัวที่รพ.อื่น เราก็ยินดีประสานส่งให้

 พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์  กล่าวต่อว่า   ตอนนี้เสียงดังมาก คนไข้แทบไม่ต้องหลับต้องนอน  โดยเฉพาะช่วงที่มีการปราศรัย แสดงดนตรี หนวกหูมาก  เรากำลังรอดูว่า 1-2 วันนี้ รัฐบาลจะทำอย่างไร เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้จะมีปัญหา เพราะถึงแม้ว่าเราจะเปิดให้บริการ OPD ห้องผ่าตัด แต่ คนไข้ไม่สามารถเดินทางมาได้เนื่องจากไม่สะดวกในการสัญจรติดขัดเพราะถูกบล็อก อีกทั้งมีขยะส่งกลิ่นเน่าเหม็นเข้ามาให้รพ. การทำงานของแพทย์  และพยาบาล  ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่แน่นอน  เรารับได้เฉพาะกรณีฉุกเฉิน แต่คนไข้ปกติไม่สามารถรับได้เลย  อย่างไรก็ตามเราคงไม่สามารถปิดรพ.ได้แต่ได้เตรียมวางแผนปรับไปตามสถานการณ์

เสื้อแดง1พันปิดถนนหน้าศาลากลางสกลนคร

   ที่ถนนหน้าศาลากลางจังหวัสกลนคร   บริเวณศูนย์ราชการ ตรงข้ามจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา  นำโดยนายนิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สกลนคร เขต 1 พรรคเพื่อไทย นางทัศนีวรรณ วิลาลัย ประธานกลุ่มสกลรักประชาธิปไตย 51  พร้อมด้วย นายถนอม สมผล นางเครือวัลย์ ศิริสวัสดิ์ แกนนำกลุ่มสกลรักประชาธิปไตย 51  พร้อมมวลชนคนเสื้อแดงจาก 18 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ เขต อ.ธาตุพนม   อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เข้ามาร่วมชุมนุมด้วยประมาณ 1,000 คน  ตำรวจต้องปิดช่องทางจราจรขาเข้า 1 เส้นทาง 

 ทั้งนี้แกนนำได้มีการหารือกันเพื่อเตรียมแผนการเดินทางเข้าไปร่วมสบทบกับกลุ่ม นปช.ที่กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย.  อีก 1 หมื่นคน  อาจมีการใช้วิธีโดยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและขณะเดินทางจะไม่สวมใส่เสื้อสีแดงป็นสัญญลักษณ์ไปในฐานะนักท่องเที่ยว  เพื่อป้องกันการถูกสกัดในการเข้าร่วมชุมนุม

  ในส่วนการดูแลความปลอดภัย  และดูแลสถานที่ราชการ  ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองสกลนครแต่งการชุดปราบปรามจราจล  และกำลังเจ้าหน้าที่ กองร้อย อส.จ.สกลนคร  เข้ามาดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด จำนวนกว่า 250 นาย โดยมีนายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ และ พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนครลงมาควบคุมสั่งการด้วยตัวเอง  ในส่วนการเฝ้าสถานที่ราชการโดยเฉพาะบริเวณศาลากลาง  และศาล  ซึ่อยู่ติดกับจุดการชุมนุม  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดประตูใส่กุญแจ  และมีกำลังเฝ้าหน้าประตูในตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันการก่อเหตุสร้างสถานการณ์

เครือข่ายพลังแผ่นดินชุมพรออกแถลงการณ์ 5ข้อค้านยุบสภา

 เครือข่ายพลังแผ่นดินจังหวัดชุมพร โดย นางนวพรรณ แก้วนาโพธิ์ ประธานเครือข่ายพลังแผ่นดินจังหวัดชุมพร และ พ.ต.ท.ภิญโญ สุขแก้ว ที่ปรึกษาเครือข่ายฯ ได้ทำแถลงการณ์ต่อ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร เพื่อขอให้ส่งต่อไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

 ในแถลงการณ์สรุปได้ว่า จากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 โดยสร้างประเด็นสงครามชนชั้นเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน แม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงพยายามสร้างภาพว่ายึดหลักสันติ อหิงสา แต่ในทางปฏิบัติกลับแสดงความก้าวร้าว ข่มขู่ คุกคาม และละเมิดสิทธิประชาชนกลุ่มอื่นจนได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวโดยตรง หลังจากนั้น ได้มีการเจรจากับรัฐบาลถึง 2 ครั้ง  ภายใต้ข้อเสนอให้ยุบสภา ท่ามกลางบรรยากาศการชุมนุมที่ไม่ปกติ เพราะมีการก่อเหตุรุนแรง และการก่อวินาศกรรม เอาชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องสังเวยและเป็นเครื่องมือต่อรองกับรัฐบาล

 ในความเป็นจริงเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า คนที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมในครั้งนี้คือ นักโทษชาย (น.ช.) ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดินที่ถูกศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้มีความผิดในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ และโทษฐานปล้นชาติโกงแผ่นดินจึงถูกยึดทรัพย์สินจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท อีกทั้งเป้าหมายที่แท้จริงของการเคลื่อนไหวชุมนุมในครั้งนี้ คือการฟอกความผิดให้กับ น.ช.ทักษิณ และเพื่อปูทางไปสู่การกลับคืนอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

 สถานการณ์ปัจจุบันแม้รัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ระเบิดรายวันและการก่อวินาศกรรมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ต่อการลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ดังนั้น เครือข่ายพลังแผ่นดินจังหวัดชุมพรอยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลผ่านนายกรัฐมนตรีดังต่อไปนี้

 1.เครือข่ายฯ ขอประกาศว่า จะปกป้องและดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ให้รัฐบาลยึดหลักนิติรัฐ และต้องดำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 3.ให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ทั้งการกระทำความผิดในการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

 การกระทำความผิดในการยุยงปลุกปั่นมวลชนด้วยข้อความอันเป็นเท็จผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุชุมชน การก่อวินาศกรรมการคุกคามระบบและกระบวนการยุติธรรม และ การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ฯลฯ เพื่อทำให้ประเทศชาติกลับเข้าสู่ปรกติสุขโดยเร็วที่สุด 4.เครือข่าย ฯ ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการต่อสู้กับระบอบทักษิณที่เป็นต้นเหตุความวุ่นวายของบ้านเมืองในขณะนี้ 5.เครือข่ายฯ มีมติคัดค้านการยุบสภาโดยมีความเห็นว่าการยุบสภาไม่ใช่ทางออกของประเทศไทย