ข่าว

'ชัชชาติ' น้อมรับผล 'นิด้าโพล' กับการทำงานในรอบ 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง

'ชัชชาติ' น้อมรับผล 'นิด้าโพล' กับการทำงานในรอบ 1 ปี คนกรุงพอใจลดลง

04 มิ.ย. 2566

ผู้ว่าฯ กทม. "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" น้อมรับความเห็นจากการสำรวจ "นิด้าโพล" คนกรุงพอใจลดลงกับการทำงานในรอบ 1ปี เปรียบเหมือนรถป้ายแดง ถอยมาแล้วราคาตก พร้อมนำความเห็นมาแก้ไขปรับปรุง

4 มิ.ย. 2566 จากผลการสำรวจของนิด้าโพล ความเห็นของคนกรุงเทพต่อการทำงานในรอบ 1 ปี ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ความพึงพอใจในการบริหารงานกรุงเทพมหานคร 1 ปีที่ผ่านมาลดลง  นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม  Bangkok Pride Parade 2023 บริเวณแยกปทุมวัน กทม. ระบุว่าส่วนตัวไม่มีความกังวลใดๆ ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้วและจะนำสิ่งที่ประชาชนคิดเห็นไปปรับปรุง

 

 

 

 

 

ผู้ว่าฯ กทม.น้อมรับผลสำรวจความเห็นคนกรุง พร้อมนำไปปรับปรุงการทำงาน

 

 

ผู้ว่าฯ กทม. ยังระบุอีกว่า  เปรียบนักการเมืองก็เหมือนรถใหม่ วันแรกที่ถอยรถออกมาราคาปกติ จากนั้น ราคาก็ลดลง แต่ย้ำว่า จะนำความเห็นทุกอย่างมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องคุยกับรัฐบาลใหม่ด้วย โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพของประชาชน พร้อมน้อมรับและนำมาปรับปรุง อีกทั้งเป็นเรื่องที่ดีแล้วที่มีคนติ ถ้ามีคนชมอย่างเดียวเราไม่รู้จะปรับปรุงตรงไหน เราก็ต้องหน้าเต็มที่ คำติเหมือนเป็นแรงผลักดันของเรา ยิ่งกว่าคำชมอีก เรายิ่งต้องเปลี่ยนมาเป็นพลังบวกให้ได้ ก็ขอบคุณ 1 ปี เราทำเต็มที่แล้ว เชื่อว่าเราได้รับความร่วมมือหลายๆ ด้าน

 

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้วิเคราะห์ว่าคะแนนนิยมที่ลดลงมาจากสาเหตุใด แต่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาต่อการทำงานย่อมมีคนชอบและไม่ชอบ แต่ก็ได้มอบหมายให้ทีมงานแต่ละด้านไปวิเคราะห์จุดอ่อน และจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับ 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณผลสำรวจโพลที่ทำให้ทราบรายละเอียดที่ต้องแก้ไข 

 

 

นายชัชชาติ ยังได้เปิดเผยถึงการรับมือกับฤดูฝนในพื้นที่ กทม.เชื่อว่าสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะได้ทำตามแผนการระบายน้ำและลอกท่อ รวมถึงโครงการหลายอย่างได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปบ้างแล้ว โครงการประตูระบายน้ำที่เสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 50 และเตรียมความพร้อมแบบชั่วคราวในการรับมือด้วย แต่ยอมรับเป็นห่วงจุดก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ที่จะต้องไปดูว่ามีการกีดขวางทางระบายน้ำหรือไม่ 

 

ส่วนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม บริเวณคลองเปรมประชากร, คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งถือเป็นคลองหลัก โดยเฉพาะคลองลาดพร้าวที่มีการรุกล้ำพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทำให้การขุดลอกคลองลำบาก ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ ที่มีการเสนอโครงการระบายน้ำไปฝั่งตะวันออก ยังอยู่ในแผนเนื่องจากมีเส้นทางยาว แต่ขณะนี้ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อที่จะระบายน้ำไปยัง อ.แปดริ้ว  จ.ฉะเชิงเทรา ได้มากขึ้น

 

นอกจากนี้ ยืนยันว่ากว่า 500 จุดที่มีปัญหาน้ำท่วมใน กทม.จะนำมาเป็นบทเรียน จัดทำเป็นแผนในการแก้ไขแล้ว และย้ำว่าอุโมงค์ระบายน้ำก็มีประสิทธิภาพอยู่ ที่ผ่านมาไม่ใช่ปัญหา แต่พบว่าน้ำไม่ไปถึงอุโมงค์ระบายน้ำ ดังนั้น จะต้องทำโครงการเส้นเลือดฝอยให้เข้มแข็ง ทั้งการดูแลปั้มสูบน้ำ การลอกท่อ ซึ่งจะต้องเข้มแข็งเพื่อไปสู่เส้นเลือดใหญ่ ส่วนการลอกท่อได้ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 3,000 กม.ภายในปีนี้จะสามารถลอกท่อได้ 100% ซึ่งก็ยอมรับว่าประชาชนรับทราบน้ำมีการระบายได้เร็วขึ้น

 

นายชัชชาติ ยังย้ำอีกว่าภายใน 4 ปี ประชาชนจะได้เห็น 200 นโยบายที่ประกาศไว้ อาจจะมีบางข้อที่จะต้องปรับปรุงเนื่องจากไม่ทันสมัย แต่อาจต้องมาปรับปรุง ขณะเดียวกัน คาดว่า สัปดาห์หน้าเว็บไซต์ที่ติดตาม 200 นโยบายจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นการติดตามงานได้มากขึ้น เพราะทุกเขตจะมีการรายงานทุกปัญหาเข้ามา 

 

และในวันอังคารที่ 6 มิ.ย.ที่จะถึงนี้จะมีการหารือกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส. กทม.พรรคก้าวไกล โดยจะมีประเด็นหารือ 17-18 ประเด็น ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ที่เป็นรัฐบาลก็ต้องหารือในประเด็นนี้ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรหลักในการเข้ามาสนับสนุนการทำงานในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากบางเรื่องกรุงเทพมหานครไม่มีอำนาจเต็มโดยตรง