ข่าว

รวบ 'เท้าแชร์ริน' โกงเงินตามรอย "แม่มณี" เหยื่อร่วมร้อยเสียหายกว่า 5 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สืบนครบาลบุกรวบ "เท้าแชร์ริน" โกงวงแชร์ตามรอย "แชร์แม่มณี" ใช้เวลาแค่ 1 ปี มีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมร้อยราย สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท

26 พ.ค. 2566  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หัวหน้าชุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 นำกำลังจับกุมตัว น.ส.ภัทรทราวรินทร์ (สงวนนามสกุล) หรือ เท้าแชร์ริน อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหา“ ฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน ” และ ศาลจังหวัดเชียงราย ในข้อหา " ฉ้อโกงประชาชนกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ”

รวบเท้าแชร์ริน โกงเงินวงแชร์ ตามรอยแชร์แม่มณี

 

 

ก่อนหน้าการจับกุม มีผู้เสียหายร้องเรียนผ่านเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ว่าถูกเท้าแชร์บ้านริน โกงเงินจากวงแชร์ไปจำนวนมาก โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท โดยวงแชร์นี้เปิดมาระยะเวลาประมาณ 1 ปี

 

โดยช่วงแรกเปิดเพียงวงเล็กๆ ต่อมาวงแชร์เริ่มใหญ่ขึ้น มีผู้ร่วมวงแชร์เป็นจำนวนมาก และเปิดหลายกลุ่ม ในระยะแรกที่มีการลงแชร์ผู้เสียหายยังได้เงินคืนอยู่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดความเชื่อใจ ผู้เสียหายจึงตัดสินใจลงเงินเพิ่มเข้าไปเป็นจำนวนมาก จนผู้เสียหาย เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติว่าเริ่มจ่ายเงินช้า โดยอ้างว่าการเงินมีปัญหาติดต่อธนาคารไม่ได้ 

 

ก่อนวันที่ น.ส.ภัทรทราวรินทร์ จะหลบหนี ได้บอกกับลูกแชร์ว่า จะไปเสริมความงามอาจจะติดต่อไม่ได้ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความไม่สบายใจ จึงตัดสินใจไปที่บ้าน ปรากฎว่า น.ส.ภัทรทราวรินทร์  หลบหนีไปแล้ว ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ต่อมามีผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่ม “ท้าวแชร์แม่มณี” สังเกตว่า น.ส.ภัทรทราวรินทร์ ได้เข้ามาเล่นในวงแชร์แม่มณี จึงได้ส่งสายลับพยายามตีสนิทก่อนที่ น.ส.ภัทรทราวรินทร์จะไหวตัวทัน

 

 

รวบเท้าแชร์ริน โกงเงินวงแชร์ ตามรอยแชร์แม่มณี

 

 

จากนั้นตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้ติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก จนพบว่าผู้ต้องหาเปิดเล่นวงแชร์โดยใช้โมเดล “วงแชร์แม่มณี” คือการเอาเงินจากอีกวงไปหมุนอีกวง จนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายลูกแชร์ได้ 

 

ต่อมาทางตำรวจได้ทำการสืบสวน จนติดตามจับกุมตัว น.ส.ภัทรทราวรินทร์ ได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน ”และ “ ฉ้อโกงประชาชนกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ก่อนนำตัวส่ง สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

logoline