ข่าว

‘เพื่อไทย’ ถอดบทเรียนแพ้เลือกตั้ง จ่อรีแบรนด์พรรค รุกหนักโซเชียลมีเดีย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จัดตั้งรัฐบาล 66 : ‘เพื่อไทย’ แถลงถอดบทเรียนเลือกตั้ง หลังเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 จ่อรีแบรนด์พรรคใหม่ ปลุกผู้สมัครใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ชี้ มีผลอย่างยิ่งอย่างมีนัยยะ  และมีผลต่อการเลือกตั้ง ฝากการบ้านผู้สมัครฯแพ้เลือกตั้ง ย้ำ ต้องไม่ลืมจุดยืนประชาชน

พรรคเพื่อไทย จัดงานสัมมนาภายในภายใต้ชื่อ “ประสานกำลังใจ ก้าวเดินต่อไปเพื่อพี่น้องประชาชน” โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำการสัมนาถอดบทเรียนกับผู้สมัครสส.ของพรรค ภายหลังจบศึกเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ที่แพ้ให้กับพรรคก้าวไกล

 

ภายหลังการสัมนาถอดบทเรียน นพ.ชลน่าน และนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกับสื่อมวลชน บอกถึงจุดแข็งจุดอ่อน จุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุงของพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน ระบุว่า กิจกรรมวันนี้จัดภายใต้ชื่อ “ประสานกำลังใจ ก้าวเดินต่อไปเพื่อพี่น้องประชาชน” มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้กำลังใจ และขอบคุณผู้สมัครทั้งผู้สมัครแบบเขต และผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรค นับว่าทำได้ดี แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นลำดับที่ 2 แต่เราทำงานอย่างหนัก ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ยินดีกับคนที่ได้รับโอกาสจากประชาชน และให้กำลังใจคนที่ยังไม่ได้โอกาส

 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ต่อมาคือทิศทางการทำงานของพรรค เป็นภารกิจที่ต้องทำร่วมกันต่อไป และการประเมินผลการเลือกตั้ง เสนอที่ประชุม หลังจากการเลือกตั้ง ได้มีการตั้งคณะกรรมการมา 1 ชุด ด้านผู้สมัครก็หารือแต่ละเขตไป ไปช่วยประเมินตนเองในเขตเลือกตั้งว่ามีจุดอ่อน จุดแข็ง วิกฤต โอกาสอย่างไร ให้ประเมินกลับมาที่ส่วนกลางด้วย

 

"เราไม่ชี้หน้าด่าใคร มาร่วมงานกันทำงาน อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง โดยมุ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นสถาบันการเมืองที่อยู่เคียงคู่ประชาชน"

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่ให้กำลังใจกับผู้สมัครฯ ระบุว่า ต้องยอมรับว่าแพ้การเลือกตั้ง และให้ก้าวต่อไปให้ได้ การแพ้ไม่ใช่ล่มสลาย อาจเป็นแรงผลักสำคัญในการเดินต่อไป ให้คนในพื้นที่มีความสามารถให้ได้มากขึ้น

 

"และภารกิจต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงพรรค ทั้งโครงสร้าง สัญลักษณ์ รีแบรนด์ดิ้ง ซึ่งขณะนี้เริ่มมีคณะทำงานในการพูดคุยกัน กำลังเริ่มทำ แต่ไม่ว่าจะไปในทิศทางไหนก็ต้องไม่ลืมพื้นฐานของพรรค ต้องผสมผสานกันไป" นพ.ชลน่าน กล่าว

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า บรรยากาศของการสัมมนาเป็นไปด้วยความอบอุ่น  และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน  ในการต่อสู้ศึกเลือกตั้ง ทุกคนทำงานอย่างหนัก ทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ผู้สัมคร ส.ส. และแกนนำของพรรค   ไม่มีการตำหนิใคร เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีแนวทางการปฏิบัติ 2 ส่วน สำหรับผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้ง และที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง เตรียมการได้แก่  

 

1.ระหว่างยังไม่ได้ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง หากมีการร้องเรียนทุกจริตเลือกตั้ง ทั้งจากผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยที่ร้องเรียนพรรคอื่น หรือพรรคอื่นร้องเรียนพรรคเพื่แไทย ฝ่ายกฎหมายพร้อมทำงาน ร่วมกับศูนย์ปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งที่ยังทำงานอยู่

 

2.เตรียมพร้อมยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ได้กำหนดให้ยื่นภายใน 90 วัน  โดยฝ่ายบัญชีพร้อมให้การสนับสนุน

 

3.ในกรณีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผู้สมัครเตรียมยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ตามที่กฎหมายกำหนด

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า ฝากข้อคิดวิเคราะห์สถานการณ์เลือกตั้ง ได้แก่ 1.นโยบายพรรคการเมือง กระแสการเมืองต่างๆ และการลงพื้นที่ของผู้สมัคร และ ส.ส. ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เราได้เน้นให้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อย่าได้ท้อถอยในการทำงานเพื่อประชาชน เพราะเพื่อไทยมีบุคลากรผู้สมัครลงพื้นที่สัมผัสประชาชนรับฟังปัญหา นำไปแก้ไขให้พี่น้องประชาชน ซึ่งการลงพื้นที่ยังจำเป็น  การลงพื้นที่อย่างหนักก็ช่วยให้ได้รับชัยชนะเลือกตั้ง 

 

2.การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องยอมรับว่า กระแสโซเชียลมีเดียมีผลอย่างยิ่งอย่างมีนัยยะ  และมีผลต่อการเลือกตั้ง เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 50 ล้านคน TikTok 30 ล้านคน และ Line 40 ล้านคน พรรคให้ความสำคัญและตั้งข้อสังเกตในโซเชียลมีเดีย ที่มีความสำคัญ  ต้องจับตาทั้ง AI และ IO 

 

3.เราเชื่อว่าอุดมการณ์ทางการเมือง ฝั่งประชาธิปไตยยังมีความสำคัญ พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนรวมกันประมาณ 70% อุดมการณ์การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ สส.ที่ย้ายจากฝั่งประชาธิปไตย ไปยังฝั่งสืบทอดอำนาจ เช่น ผู้ที่ไปสมัครในนามพรรคอื่น ที่ย้ายจากพรรคเพื่อไทย 10 กว่าคน สอบตก รอดมาเพียง 1-2 คน  เป็นอุทาหรณ์ว่าประชาชนลงโทษ

 

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การบ้านที่มอบให้ผู้สมัคร สส. และว่าที่ สส. คาดว่าจะส่งกลับมาภายใน 1 เดือน  เพื่อให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองของพรรคได้ถอดบทเรียนในการเลือกตั้ง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีรูปแบบของตนเอง  ไม่เลียนแบบ มีอัตลักษณ์ มีตัวตนของเราเอง ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราพร้อมเสมอกับการเปลี่ยนแปลง

 

"เรามองไกลไปถึงสมรภูมิการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผู้สมัครต้องพัฒนาการใช้โซเชียลมีเดียของตนเอง เพราะยังมีผลต่อสู้ในสมรภูมิการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน ก่อตั้งปี 2543 การเลือกตั้งปี 2544 จนถึงปัจจุบัน พิสูจน์ว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนประชาธิปไตย แม้กระแสลมจะเปลี่ยนแปลงแต่เรายังยืนหยัด"

logoline