ข่าว

'ทนายพัช' เตรียมเข้าพบตร. 31 พ.ค. 66 'บิ๊กโจ๊ก' ไม่หวั่น หากถูกฟ้องกลับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ติดต่อได้แล้ว 'ทนายพัช' เตรียมเข้าพบตำรวจ 31 พ.ค. 2566 ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' ไม่หนักใจ หากถูกฟ้องกลับ ยันออกหมายเรียกตามพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า หลังมีการออกหมายเรียก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ 'ทนายพัช' ทนายความของ น.ส.สรารัตน์ หรือ 'แอม ไซยาไนด์' ผู้ต้องหา ผู้ต้องหาคดีวางยาฆ่าชิงทรัพย์ ให้มาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อหา ตามมาตรา 184 "ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงโดยการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด" อย่างเป็นทางการครั้งที่ 1 โดยนัดหมายมาเข้าพบ ในวันที่ 30 พ.ค. 2566 เวลา 13.00 น. 

 

 

ล่าสุดช่วงสายของวันนี้ 'ทนายพัช' ได้ติดต่อกลับมาแล้ว จากเดิมที่นัดให้มาพบวันที่ 30 พ.ค. เจ้าตัวได้ขอเลื่อนมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่ายของวันที่ 31 พ.ค. 2566 แทน

 

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าในส่วนของสำนวนคดี น.ส.สรารัตน์ หรือ 'แอม ไซยาไนด์' นั้น ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสำนวน ทั้ง 15 สำนวน หลังมีการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือรอเพียงผลตรวจพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บางส่วน คาดจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ในต้นเดือนหน้า โดยจะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทวิฑูรย์ หรือ รองอ๊อฟ รอง ผกก.สอบสวน สภ. สวนผึ้ง มาส่งฟ้องต่ออัยการด้วย

 

 

ทนายพัช

 

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทนายคนดังกล่าวจะมีการดำเนินคดีกับตำรวจ ม.157 และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของทุกคนหากจะฟ้องกลับ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร และออกหมายเรียกไปตามพยานหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎ ซึ่งทางเราได้มีการเตรียมทนายความไว้คอยช่วยเหลือ นายรพี และ ตำรวจ รวมไปถึงสื่อมวลชน ถ้าหากจะต้องถูกฟ้องกลับไว้แล้ว

 

 

"ไม่รู้สึกอะไร ณ วันนี้ก็ทำตามกฎหมาย และได้ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในวันอังคารนี้ ถ้าหากครบกำหนดหมายเรียกก็จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอศาลอาญา เพื่อ ขออำนาจศาลออกหมายจับ ยืนยันว่าผมและพนักงานสอบสวนทั้งชุดทำงานเป็นธรรมและไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้ตำรวจสำนวนสรุปไปได้ถึง 90% แล้ว"

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงเส้นทางการเงินอีก 7-8 บัญชี จาก 180 บัญชีที่ตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ทราบถึงที่มาของ สารไซยาไนด์ และในวันศุกร์นี้จะขึ้นรูปคดีเตรียมสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการสั่งฟ้อง ขณะนี้ได้มีการเตรียมบุคคลที่จะขึ้นเบิกความกับทางศาลแล้ว ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีการรับสารภาพ เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน

 

 

เมื่อถามว่า สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา แล้วทางตำรวจจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า หากผู้ถูกออกหมายเรียกปรากฏตัวก็จะต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีความพยายามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนจะขอหมายขัง ตามป.วิอาญา 134 หรือไม่นั้น ก็มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฏหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ 

 

 

สำหรับกรณีที่ 'ทนายพัช' ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ระบุว่าศาลยกคำร้องขอหมายจับ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ ยืนยันว่า หลักฐานเพียงพอ แต่ที่ศาลให้กลับไปออกเป็นหมายเรียก เพราะเป็นข้อหาเดียวกันกับ รองอ๊อฟ จึงจะให้ความเป็นธรรมแบบเดียวกันที่ออกหมายเรียกก่อนเช่นกัน

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ