ข่าว

‘เพื่อไทย’ ขู่ไม่ร่วม 'ตั้งรัฐบาล' หาก 'ก้าวไกล' กินรวบตำแหน่งประธานสภา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อดิศร เพียงเกษ' เพื่อไทย เสนอใช้เสียงในสภาฯ ชี้ขาดว่าคนของ ก้าวไกล-เพื่อไทย พรรคไหนจะได้นั่งเก้าอี้ ‘ประธานสภาฯ’ ขู่ไม่ร่วม 'ตั้งรัฐบาล' หาก 'ก้าวไกล' ดึงดันกินรวบทุกตำแหน่ง

ตั้งรัฐบาลก้าวไกลยังไปไม่ถึงฝัน เมื่อเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฏร ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยต่างวาดหวังจะได้ตำแหน่งนี้เอาไว้กับพรรค ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย

 

อดิศร เพียงเกษ อดีตโฆษกผู้นำฝา่ยค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะว่าที่ สส.พรรคเพื่อไทย โต้กลับหลัง ปิยบุตร แสงกนกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ระบุพรรคก้าวไกลต้องไม่เสียตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ใครว่า ถ้าพรรคก้าวไกลอยากได้ทุกตำแหน่ง ต้องทำให้ได้เหมือนในสมัยพรรคไทยรักไทยที่ได้ 377 เสียง ที่จะชี้เป็นชี้เป็นชี้ตายในตำแหน่งไหนก็ได้

 

พรรคเพื่อไทยยินดีสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีการแถลง นี่คือประเพณีของระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อพรรคก้าวไกลได้ฝ่ายบริหารแล้ว จะไม่ให้พรรคอื่นไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องดูความเหมาะสมของแต่ละช่วงเวลาบางครั้ง เช่น กรณี ชวน หลีกภัย ประภานสภาฯ ได้ 60 กว่าเสียงยังได้เป็นประธานสภาฯ ซึ่งต้องดูถึงความเหมาะสม

 

อดิศร เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าในการดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หากวัดจากบุคลากร แต่ทั้งนี้ข่าวที่ออกไปมีคำถามว่าแก่งแย่งกัน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคประชาธิปไตยทั้งคู่ ดังนั้นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปโหวตเลือกในสภาฯ 

 

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่พรรคเพื่อไทยจะสู้เต็มที่หรือดึงดัน แต่เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่ง ดังนั้นทางออกโดยการโหวตจึงเหมาะสม นอกจากนี้เพราะตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่เป็นหน้าเป็นตาไม่แพ้ฝ่ายบริหาร เมื่อฝ่ายบริหารได้คนหนุ่มไฟแรงเป็นนายกฯ แล้ว ซึ่งเหมาะสมกับสมัยนี้

 

ติงก้าวไกลไม่ควรกินรวบ

แต่ตำแหน่ง 'ประธานสภาฯ' พรรคก้าวไกลก็ไม่ควรกินรวบ พร้อมถามว่าเล่นสลากกินแบ่งเป็นหรือไม่ แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ถ้าพรรคก้าวไกลจังยังดื้อดัน สมมุติถ้าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลด้วย จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้

 

เมื่อถามว่าตำแหน่ง 'ประธานสภาฯ' ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล เพื่อการันตีมาตรา 112 จะได้เข้าสภานั้น อดิศร กล่าวว่า พรรคก้าวไกลต้องไปพูดคุยกันเองเพราะได้หาเสียงไว้ในเรื่องนี้ จนได้รับชัยชนะ ประชาชนก็ติดใจหาเสียงแทบเป็นแทบตายไปดูถูกดูแคลนพรรคอื่นว่าสู้ไปกล่าวไปพอตัวเองได้รับชัยชนะแล้วสิ่งที่ตัวเองพูดไว้จะเหมือนสู้ไปโกหกไปหรือไม่ ปิยบุตร จึงเป็นห่วงภาพลักษณ์ของพรรคก้าวไกล ยังไม่เป็นรัฐบาลเลยก็ทำอย่างนี้เสียแล้ว จะมีความเชื่อมั่นในอนาคตได้อย่างไร

 

ซึ่งเสียดายที่ ปิยบุตร ไม่ได้เข้าไปในสภาฯ ซึ่งหากจะเอาเรื่องเข้าสภาฯ จะถูกตรวจสอบจากสื่อสารมวลชน ดังนั้นกฎหมายทุกฉบับจะเข้าในสภาฯ 'ประธานสภาฯ' จะทำตามอำเภอใจไม่ได้ แต่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ ถ้าจะเป็นรัฐบาลอย่าห่วงเรื่องนี้ และขอสอนปิยบุตรว่า พรรคก้าวไกลได้ สส. มาหลายคนแล้ว หากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ไม่เสียหายตายเสียจาก

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ