ข่าว

เกิดเหตุ 'ชายคลั่ง' ยิงพี่น้องบาดเจ็บ ตำรวจเผยปมมาจากกลัวแย่งสมบัติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกิดเหตุ 'ชายคลั่ง' ยิงพี่น้องบาดเจ็บ 2 ราย ขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินภายในครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้ว เบื้องต้นผู้ก่อเหตุทำงานด้านรักษาความปลอดภัย

จากเหตุ "ชายคลั่ง" ซึ่งเหตุเกิดในบ้านพัก ซอยจันทร์ 23 แขวงช่องนนทรี เขตคันนายาว เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย  โดยมีตำรวจ สน.บางโพงพาง เข้าเกลี่ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว

 

ในที่เกิดเหตุคลุ้มคลั่งโดยชายรายหนึ่งใช้อาวุธ ยิง ตบ คนครอบครัว บาดเจ็บ 2 ราย แกว่งปืน เดินไปมา บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านพัก ในซอยจันทร์ 23 ร้องสื่อ เผยความในใจ หวาดกลัว พี่ๆ น้องๆ แย่งสมบัติ แต่จิตใจยังไม่สงบ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเกลี่ยกล่อม

ตำรวจ สน.บางโพงพาง รับแจ้งคนร้ายยิงปืนในบ้านพักหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ภายในซอยจันทร์ 23 แขวงช่องนนทรี เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงประสานสายตรวจเข้าระงับเหตุที่เหตุ พบผู้ก่อเหตุถืออาวุธปืน มีอาการเครียด เดินไป เดินมา บางครั้งยกอาวุธปืนจ่อตัวเอง ยืนขวางทางเข้าที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพัก ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูอาการบาดเจ็บของเหยื่อที่ถูกยิง

 

ต่อมา เวลา 13.24 น. หลังความพยายามเกลี่ยกล่อมของเจ้าหน้าที่ ผู้ก่อเหตุจึงอนุญาตให้อาสาสมัคร จากหน่วยกู้ชีพนำตัวผู้หญิงรายหนึ่งที่บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล  แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมวางอาวุธปืน

 

โดยผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณอกด้านขวา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายเป็นชาย ถูกอาวุธปืนตบที่บริเวณศีรษะ ซึ่งทั้งผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุเป็นพี่น้องกัน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น

ต่อมา น้องชายของ "ชายคลั่ง" คนดังกล่าว เล่าว่า ผู้ก่อเหตุ คือ พี่ชายคนโต เมื่อช่วงเช้านั่งกินข้าวกันกับหลานอีก 1 คนรวมเป็น 4 คน ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้เหตุมีปากเสียงกับหลาน(ไม่ทราบสาเหตุ) จากนั้นแม่ของหลาน ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุ และเป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บได้เข้าไปช่วยห้าม จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ชักปืนยิงน้องสาวเข้าที่บริเวณอกด้านขวา ตนเองจึงไปช่วยห้าม แต่พี่ชายไม่ฟัง และใช้ปืนตบที่หน้าตนเอง และข่มขู่ว่าจะยิงให้หมดเลย ตน ทราบเพียงว่าพี่ชาย(ผู้ก่อเหตุ)มีปัญหาเรื่องเงินในครอบครัว เป็นคนเงียบ และเก็บกด ตนเองเชื่อว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พี่ชายได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเจรจา ผู้ก่อเหตุได้ขอว่า อยากพูดคุยกับสื่อมวลชน ตำรวจจึงให้สื่อเป็นตัวแทนเข้าไปพูดคุย เจ้าตัวได้ระบายเพียงสั้นๆว่า ตนเองกลัวพี่ๆ น้องๆ จะโกง แย่งสมบัติ แต่เนื่องจากผู้ก่อยังมีอาวุธปืนเหน็บอยู่ด้านหลัง จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ตำรวจจึงกันผู้สื่อข่าวออกจากพื้นที่

 

 

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่าระหว่างการพูดคุยกับผู้สื่อข่าว ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีอาการเครียด ยิ้มแย้ม ลักษณะอยากระบายให้ใครฟัง ซึ่งเป็นท่าทีที่ตรงกับคำบอกเล่าของน้องชาย ที่ระบุ พี่ชายไม่ได้ป่วย หรือมีอาการจิตเวชแต่อย่างใด

 

 

ล่าสุด เวลา 14.00 น. ด.ต.ปราวิน แสงจันทร์ ผบ.หมู่ บก.สปพ. เจ้าหน้าที่ชุดแรก ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุอายุประมาณ 80 ปี อดีตทหาร เกษียรอายุราชการ ใช้อาวุธปืนลูกโม่ .38 ม.ม. ก่อเหตุยิง น้องสาวจำนวน 1 นัด เนื่องจากมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องทรัพย์สิน หลังก่อเหตุ อดีตทหารายนี้ยังได้ขังหลานสาวซึ่งเป็นคู่กรณี ที่ทะเลาะกันไว้บนบ้านชั้น 2 ก่อนจะปล่อยตัวออกมาให้ช่วยดูน้องสาว ซึ่งเป็นแม่ของหลานสาวที่นอนบาดเจ็บอยู่

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ไปหมดแล้ว ตำรวจได้เข้าเจรจาอีกครั้ง จนผู้ก่อเหตุยอมเก็บปืนและเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการพูดคุย จนผู้ก่อเหตุมีท่าทีสงบลง แต่เพราะยังคาใจกับญาติพี่น้อง จึงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว

 

 

ล่าสุด เวลา14.32 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถสายตรวจ เดินทางไปสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง  ขณะที่อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ขนาด 38 มม. ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ผู้ก่อเหตุเคยทำงานเกี่ยวกับหน่วยงานรักษาความปลอดภัยจึงมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นพิเศษ จึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบางโพงพาง และดำเนินคดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ