ข่าว

จ่อส่ง 15 สำนวนคดี 'แอม ไซยาไนด์' ฟันอาญา เมินคำให้การปฏิเสธ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ผบ.ตร." มั่นใจหลักฐานเพียงพอเอาผิด "แอม ไซยาไนด์" เมินไม่ให้ความร่วมมือให้ปากคำตำรวจ ขณะ "บิ๊กโจ๊ก" เตรียมสรุป 15 สำนวนคดีอาญา ส่งอัยการสัปดาห์หน้า

19 พ.ค. 2566  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการคดี นางสรารัตน์ หรือ  แอม ไซยาไนด์ ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงต้องเร่งรัดทำให้เร็ว รอบคอบ ในรูปแบบคณะทำงาน ซึ่งทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการประชุมต่อเนื่องทุกวัน โดยมีพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามและตำรวจภูธรภาค 7 ที่เป็นหน่วยงานหลักในทำคดี มีการพูดคุยกันตลอดและมีแนวทางร่วมกันคาดจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้

 

 

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร.

 

 

เมื่อถามถึงบางกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือและหลักฐานบางชิ้นไม่สมบูรณ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า  ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาอาจไม่ให้ความร่วมมือ ก็สามารถหาหลักฐานทางอื่น จากพยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานเอกสารต่างๆ พยานแวดล้อมต่างๆ นำมารวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่ออัยการ คดีนี้มีหลักฐานพอสมควรถือว่ามั่นใจได้

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (18 พ.ค. 2566) นางสรารัตน์  หรือ แอม ปฏิเสธให้ปากคำ และไม่ยอมลงลายมือชื่อในคำให้การที่ให้ไว้เดิม ว่าไม่เหนือความคาดหมาย หลังเจ้าตัวได้รับคำปรึกษาจากทนายความ ซึ่งยังคงเป็น น.ส.ธันย์พิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช  แม้ผู้ต้องหายังไม่ได้รับสารภาพในข้อหาฆ่าผู้อื่น แต่รับในข้อเท็จจริง ซึ่งก็ยังยืนยันว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานที่แน่นหนา สามารถดำเนินคดีในชั้นศาลได้

 

ส่วนการกลับคำให้การของผู้ต้องหานั้น ไม่มีปัญหาในการดำเนินคดี แต่จากการเข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเองในเรือนจำพบว่า แอม ยังไม่สำนึกผิด ส่วนการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย กับ แอม จะมีความผิดหรือไม่ และมีเส้นทางการเงินโยงกันหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบความผิด และยังไม่พบว่ามีการโอนเงินให้กับทนาย แต่ทางครอบครัวเป็นคนดำเนินการจ่ายค่าทนายความ

 

 

บิ๊กโจ๊ก เตรียมสรุป 15 สำนวนคดี แอม ไซยาไนด์ ให้อัยการพิจารณาฟันคดีอาญา

 

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สืบสวนถึงแหล่งที่มาของไซยาไนด์ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยปละละเลย และกลุ่มเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่พบว่า เส้นทางการเงิน “แอม” โอนเงินไปเล่นพนันกว่า 78 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบถึงเจ้าของเว็บไซต์ทั้งหมดแล้ว ยังไม่มีความเคลื่อนไหว

 

ทั้งนี้ แอม ยอมรับว่าเล่นการพนัน ตั้งแต่ปี 2563 โดยรวมเงินจากกลุ่มเพื่อน วงแชร์ วงจำนำรถ และกลุ่มเงินกู้  บางวันเข้าเว็บพนันมียอดเงินสูงถึง 10 ล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบยังไม่พบว่า พ.ต.อ.วิฑูรย์  อดีตสามีของ แอม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนัน แต่ได้ช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งกู้เงินจากสหกรณ์ และจำนองบ้าน เพื่อนำเงินไปให้ แอม

 

โดยสัปดาห์หน้าจะมีความพบความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหาและการออกหมายจับกับบุคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนแอมจะถูกแจ้งความผิดเพิ่มเติม ข้อหาใช้เอกสารปลอม หลังพบการปลอมทะเบียนรถของนายแด้  อดีตสามีแอม

 

ในส่วนการรวบรวมสำนวนคดี มีการปรึกษาร่วมกับอัยการอยู่โดยตลอด เพื่อให้การตรวจสอบสำนวนไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมที่จะส่งให้อัยการพิจารณาทั้ง 15 สำนวน เพื่อดำเนินคดีที่ศาลอาญา ภายในสัปดาห์หน้า โดยจะมอบหมายให้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. ซึ่งเป็นผู้ทำคดีและเป็นผู้มีประสบการณ์ในการร้อยเรียงสำนวนทั้ง 15 สำนวนขึ้นเบิกความให้ศาลรับฟัง

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ