'แอม ไซยาไนด์' รับสารภาพแล้ว ขอ 'บิ๊กโจ๊ก' สอบปากคำด้วยตัวเอง

15 พ.ค. 2566  นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 14 คดี และพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 1 คดี รวม 15 คดี ร้องขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  เข้าไปสอบปากคำตนเองภายในทัณฑสถานหญิงกลาง หลังยอมเปิดปากให้การรับสารภาพในบางประเด็น

โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่าน ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ได้เข้าไปสอบปากคำ นางสรารัตน์ หรือแอม ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นครั้งที่ 3 โดยการสอบปากคำในครั้งนี้เป็นการสอบสวนในประเด็นที่พนักงานสอบสวนยังสงสัยเพิ่มเติม รวมทั้งรับตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม มาร่วมสอบสวนด้วย

เบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  เปิดเผยว่านางสรารัตน์ หรือ แอม ได้ประสานผ่านตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ร้องขอให้เข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเอง ส่วนจะรับสารภาพ หรือไม่ ขอเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาให้ละเอียดก่อน โดยก่อนหน้านี้ แอม ได้รับสารภาพเพียงพฤติการณ์ แต่ยังปฏิเสธในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในการสอบปากคำครั้งที่ 2

และวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อพิจารณาขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับ แอม ซึ่งมีพฤติการณ์ช่วยเหลือ และทำลายหลักฐาน

 

ในส่วนของการสอบปากคำพยานบุคคลในคดี  พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วกว่าร้อยละ 90 เหลือเพียงผลตรวจวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานที่พบเพิ่มเติมจากที่พบในรถ และแคปซูลยา ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการนำมารวบรวมประกอบสำนวน

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนคดีอื่นๆ นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวน ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งประสานข้อมูลทำงานร่วมกัน เพื่อเร่งคลี่คลายคดี ส่วนกรณีจะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติม หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ 

หลังจากฝ่ายสืบสวนพบพยานหลักฐานว่า มีการยักย้ายถ่ายเทพยานหลักฐาน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า เป็นบุคคลใด ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ต้องรอให้ทางฝ่ายสืบสวนที่พบหลักฐานการกระทำผิดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางกองบังคับการปราบปราม จากนั้นจึงจะมีการเชิญตัวบุคคลดังกล่าวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนต่อไป