'เศรษฐา' มั่นใจชนะเลือกตั้งคะแนนนำอยู่ยืนยันพร้อมคุยฝ่ายประชาธิปไตยก่อน

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.พรหมมินทร์ สุริยเดช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และน.ส.ลินธิภรณ์ วรินวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการ เลือกตั้งหลัง66 หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นับคะแนนไปได้ 26% แล้ว

 

 

เมื่อถามว่าได้มีการคุยกับพรรคก้าวไกลหรือ นาย "เศรษฐา" ระบุว่า  ยังไม่ได้คุยกับทางพรรคก้าวไกล นายพิธายังไม่ได้ต่อสายมา ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องขอคุยกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมอุดมการณ์ด้วยกันมาก่อน ตนไม่ทราบว่าตามธรรมเนียมใครจะต้องเป็นคนติดต่อก่อน เพราะตนเองก็เป็นหน้าใหม่ทางการเมือง 

 

 

 

 

นาย "เศรษฐา" ยังกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่ผิดหวังกับคะแนนที่ออกมา เพราะพรรคเพื่อไทยยังนำอยู่ และไม่มีใจเสีย แต่ยอมรับว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครใจเสียแน่นอน กรุงเทพฯ ผิดหวัง ขณะเดียวกันรู้สึกแปลกใจ แต่ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสได้อยู่ ยังไม่คิดปรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง 

 

 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสได้ถึง 200 ที่นั่งหรือไม่ นาย "เศรษฐา" ระบุว่า พึ่งนับได้เพียง 20% พร้อมกับย้ำว่า ใจเย็นๆๆๆๆ หลายครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ต่อสายถึงพรรคการเมืองใด และยังไม่มีพรรคไหนต่อสายมา รวมถึงพรรคก้าวไกลด้วย และพร้อมที่จะคุยกับฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมอุดมการณ์กันมา 4 ปีก่อน

 

 

เมื่อถามว่าตัวเลขพรรคก้าวไกลนำมานั้น นาย "เศรษฐา" มีสีหน้าที่ขึงขังก่อนบอกว่า “ไม่ใช่ก้าวไกล ผมนำอยู่ ตัวเลขนำอยู่” และยังมั่นใจว่า เมื่อคะแนนออกมาแล้วท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยจะนำอยู่ ซึ่งขณะนี้มีการนับคะแนนไปเพียง 20% หรือจำนวน 5 ล้านคะแนน จาก 40 ล้านคะแนน

 

 

ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังคงอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ติดตามผลการเลือกตั้ง พร้อมกับทำหน้าที่แม่อยู่ และเหตุผลที่มายังศูนย์แถลงข่าวนี้ เพราะจะมาแสดงตัวเพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ไปไหน และรอแถลงข่าวอยู่

 

เมื่อถามว่าขั้วรัฐบาลปัจจุบันยังไม่ประกาศยอมแพ้ ห่วงว่าจะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลข้างน้อยหรือไม่ นายเศรษฐา บอกว่า ไม่กังวล เพราะไม่มีความชอบธรรม

 

 

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมถึงการเลือกตั้งจะโมฆะได้ต้องมีเหตุผลเพียงพอ ส่วนการวินิจฉัยการกาบาทเลยกรอบในบัตรเลือกที่ตีว่าเป็นบัตรเสียนั้น นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นหลักฐานที่จะใช้ในการร้องเรียนได้ และอาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่