แค้นผัวพากิ๊กไป 'เลือกตั้ง' ดักหน้าคูหาสาดกระสุนก่อนโดดขึ้นท้ายรถยิงซ้ำ

14 พ.ค. 2566 ภาพวงจรปิดริมถนนในซอยด่านสำโรง ต.ด่านสำโรง อ.เมือง  จ.สมุทรปราการ จับภาพรถกระบะอีซุซุ เสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าข้างทาง โดยที่ท้ายกระบะ มีผู้หญิงสวมเสื้อแขนยาวสีแดงนั่งอยู่และพยายามทุบกระจกด้านหลังคนขับและชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่คนขับรถหลายนัด จนคนขับเปิดประตูรถหนีตายอย่างทุลักทุเล ขณะที่ประตูฝั่งซ้ายมีผู้หญิงสวมเสื้อสีขาวเปิดประตูรถวิ่งหนีตายออกมาจากรถกระบะ ท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมากที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณจุดเกิดเหตุ 
 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้มีประชาชนบันทึกภาพเหตุการณ์พบว่าผู้หญิงสวมเสื้อสีแดงที่นั่งท้ายกระบะรถ กระโดดลงจากรถวิ่งตามชายคนขับที่หนีตายลงมาจากรถ พร้อมกับใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมา พยายามจ้วงแทงชายคนดังกล่าวอีกหลายครั้ง จนชาวบ้านต้องเข้าห้ามและแยกย้ายทั้งคู่ออกจากกัน พร้อมรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้มาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และควบคุมตัวหญิงเสื้อแดง ให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งเดินทางมาที่เกิดเหตุหลังเกิดเหตุควบคุมตัวหญิงเสื้อแดงคนดังกล่าว  ส่วนชายคนขับรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ

 

 

 

 

นางสมร  (สงวนนามสกุล)   อายุ 61  ปี หญิงเสื้อแดงผู้ก่อเหตุ  ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมของกลาง ทั้งอาวุธปืนลูกโม่ และมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ  ให้การยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนชายที่ถูกทำร้าย คือ นายสมคิด (สงวนนามสกุล)  อายุ  63 ปี สามีของนางสมร ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะต้องการสั่งสอนและต้องการทำให้แค่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเสียชีวิต เพราะแค้นที่สามีไปมีเมียน้อยหลายต่อหลายครั้ง และหลายคน 

 

และตนเจอสามีครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2562 หลังจากที่สามีไปมีเมียน้อย ก็ได้แยกย้ายทางกันไป และกลับมาอยู่กับตนเอง ที่ผ่านมา จับได้หลายครั้ง ที่สามีไปติดหญิงอื่น จนหมดเนื้อหมดตัว และมาทราบภายหลังว่า สามีไปมีเมียน้อย และเอารถคันเกิดเหตุไปรับส่งเมียน้อย แอบไปเช่าบ้านเช่าห้องอยู่แถวย่านลาดกระบัง 

 

 

 

 

 

กระทั่งวันนี้ทราบว่า สามีจะพาเมียน้อยมาเลือกตั้งที่ซอยวัดด่าน ตนจึงนั่งรถมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมาดักรอหวังเคลียร์ปัญหาครอบครัว และมาเจอสามีขับรถออกมาจากหน่วยเลือกตั้ง ตนพยามเรียกให้จอด แต่สามีก็ไม่ยอมจอด ด้วยความโมโห จึงได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมายิงใส่ไปหนึ่งนัด  แล้วกระโดดขึ้นท้ายรถ และยิงซ้ำใส่สามี จากกระจกด้านหลัง จนรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้า จากนั้นจึงตามลงไปใช้มีดแทงซ้ำอีกสองครั้ง ส่วนปืนยิงไปจนหมดโม่  ไม่ได้นับว่ากี่นัด ปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก็เป็นปืนของสามี ที่เคยซื้อมาไว้นานแล้ว 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้คุมตัวภรรยาใจเด็ดรายนี้ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกับตรวจยึดของกลาง เป็นปืนลูกโม่ ขนาด.38 พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาลูกโม่จำนวน 5 นัด กระสุนที่ยังไม่ยิงอีก 5 นัด มีดปลายแหลมเปื้อนเลือดอีกจำนวน 2 เล่ม เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหาพยามฆ่าโดยเจตนา และพ.ร.บ. อาวุธปืน  

 

 

สุทธินันท์  คงสินธ์   จ.สมุทรปราการ