ข่าว

สาวตัวแทนประกันให้ปากคำตำรวจ 'แอม ไซยาไนด์' เคยถามจะทำประกันภัยให้แด้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวตัวแทนประกันภัยเพื่อน "แอม ไซยาไนด์" เข้าให้ปากคำตำรวจ เคยสอบถามจะทำประกันภัยให้นายแด้ แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินจึงโมฆะ "บิ๊กโจ๊ก" ยันศุกร์นี้ คดีสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ ด้าน "รองอ๊อฟ" รับรู้เรื่องเงิน เร่งตรวจสอบรู้เรื่องการตายหรือไม่

10 พ.ค. 2566 น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) เพื่อนเรียนสมัยมัธยม ของนางสรารัตน์ หรือ แอม และเป็นตัวแทนประกันภัย เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำกรมธรรม์ประกันชีวิตของ นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ สามีของนางสรารัตน์ หรือ แอม ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 

 

น.ส.ใหม่ เปิดเผยก่อนเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ตนเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แอมได้ติดต่อมาหาแจ้งว่าต้องการทำประกันชีวิตให้กับนายแด้ สามี เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ เคยผ่าตัดริดสีดวงมาก่อน จึงอยากทำประกันสุขภาพไว้ 

 

จากนั้น แอม ยังบอกอีกว่าต้องการทำประกันทุนชีวิตด้วย ซึ่งประกันฉบับนี้ หากผู้ทำกรมธรรม์เสียชีวิต ก็จะได้รับเงินประกันเป็นก้อน จำนวน 7 ล้านบาท โดยการทำประกันครั้งนั้นมีเงื่อนไข คือผู้ที่รับผลประโยชน์ระบุให้ลูกสาวของแอม  ที่แอมอ้างว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายแด้ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด 

 

แต่ต่อมาก็ปรับเปลี่ยนภายหลังให้ แอม เป็นผู้รับผลประโยชน์เอง สำหรับการทำประกันทั้ง 2 ฉบับนี้ แอมจะต้องจ่ายค่าเบี้ยรวมประมาณ 100,000 บาท ซึ่งขณะนั้น แอม ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องเงินในการส่งเบี้ยประกันรายปี

 

สาวตัวแทนประกัน ให้ข้อมูล แอม เคยสอบถามทำประกันชีวิตให้นายแด้

 

 

แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นก็เงียบหายไป ตัวเองพยายามติดต่อสอบถามเรื่องการจ่ายเบี้ยประกัน และทำเอกสารให้ครบถ้วน ระหว่างนั้นแอมบอกว่า มีปัญหาทะเลาะกับนายแด้ และขอไม่ให้ติดต่อพูดคุยเรื่องการทำประกันกับนายแด้ด้วย 

 

จนกระทั่งช่วงเดือนมีนาคม ตนได้ติดต่อไปพูดคุยเรื่องการทำประกันอีกครั้ง จึงทราบว่านายแด้เสียชีวิตแล้ว ดังนั้นการทำประกันชีวิตฉบับนี้ถือว่าเป็นโมฆะไป และต่อมาเห็นข่าวว่าแอมก่อเหตุ ใช้ไซยาไนด์ฆ่าคนตายนับ 10 ราย จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเห็นว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีของ นางสรารัตน์ หรือ แอม ว่าขณะนี้ ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานในคดีได้มากถึง 80 เปอร์เซนต์แล้ว เหลือเพียงรวบรวมเส้นทางการเงิน ข้อมูลรายละเอียดในบัญชีธนาคารต่างๆ และผลตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาผนวกในรายงาน เบื้องต้นคาดว่าในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.นี้ จะครบถ้วน 100 เปอร์เซนต์ ในส่วนของการสืบสวน

 

ส่วนจะมีการออกหมายจับใคร เพิ่มเติมหรือไม่นั้น หากพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีแน่นอน แต่จะเป็นคนใกล้ชิดแอมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานอยู่ แต่เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

ส่วนกรณีที่ในบัญชีธนาคารของแอม มีเงินสูงถึง 78 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทราบรายละเอียดของเงินเข้าแล้ว ในช่วงปี 2563-2565 แต่ในส่วนของเงินออกไปอยู่ที่ไหน หรือใคร อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งขอเวลา 2 วัน จึงจะได้ข้อมูลครบในทุกประเด็น ทั้งเส้นทางการเงิน และข้อมูลในบัญชี แต่จากการตรวจสอบยอดเงิน ทั้งหมดพบว่า เงินออกจากบัญชีไปหมดแล้ว ซึ่งเงินส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์หรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ

 

 

 

ตัวแทนประกันเข้าให้ปากคำ แอม เคยสอบถามจะทำประกันให้นายแด้

 

 

นอกจากนี้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตสามี แอม ให้การยอมรับว่า รู้เรื่องเงินตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร และรู้เรื่องเงินที่แอมเอามาใช้หนี้ให้ตัวเองจำนวน 4 ล้านบาทด้วย ส่วนจะมีความเชื่อมโยงว่า มีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของใครหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวน รวมถึงได้มีการซื้อประกันให้ รองอ๊อฟ ด้วยหรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อน

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสเรื่องใบมรณะบัตรไม่ได้ระบุว่า มีบุคคลใด ทำให้ตาย จะเป็นข้อต่อสู้ของผู้ต้องหาหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า การออกใบมรณะบัตร เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ปกครองเป็นฝ่ายดำเนินการในแต่ศาลจะรับฟังในส่วนของแพทย์นิติเวชที่มีการชันสูตร เป็นหลัก 

 

ถึงแม้ว่าในบางศพไม่ได้มีการส่งศพตรวจที่นิติเวช แต่ทางตำรวจได้มีการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญไว้เทียบเคียง เพื่อเป็นหลักฐานและการนำหลักฐานอื่นที่ปรากฎที่ศพไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เพื่อจะเชื่อมโยงไปถึงการฆาตกรรมหรือไม่ รวมไปถึงเทียบเคียงผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาด้วย

 

อย่างไรก็ตามจากการไล่ไทม์ไลน์การก่อคดี พบว่า ทราย หรือ น.ส. มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ เป็นรายแรกตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นมาปี 2563 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1-2 ศพ ต่อมาปี 2564 ผู้เสียชีวิตทยอยเพิ่มมากขึ้นถึง 11 ศพ และในปี 2565-2566 มีผู้เสียชีวิตทยอยเพิ่มขึ้น แต่ก่อนถูกทางตำรวจจับได้ โดยช่วงเวลา 2564-2565 แอม น่าจะมีไซยาไนด์อยู่ในมือ ทำให้ปริมาณศพเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับช่วงที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก

 

และวันนี้ทางตำรวจได้นัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ มาให้ข้อมูลรายละเอียดในสำนวน เพื่อให้แน่นหนาขึ้น โดยจะเป็นการดูภาพรวมของผู้เสียชีวิตทุกศพ จะมีตำรวจกองบังคับการปราบปราม และที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาประชุมด้วย

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ