'ไซยาไนด์' หลุด รอง ผบ.ตร. ฟัน กรมโรงงานอุตสาหกรรม หละหลวม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลัง ประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” พร้อมหารือกับ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในประเด็นการนำเข้า ควบคุม และกำกับดูแลไซยาไนด์

รอง ผบ.ตร. ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นชัดเจนแล้วว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีความหละหลวม เพราะไม่ทราบว่า ไซยาไนด์ออกไปจากระบบเท่าไร ซึ่งเป็นสิ่งที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม จะต้องตอบให้ได้ ถ้าตอบไม่ได้ก็จะต้องไปตรวจสอบจากเอกสาร และหากไซยาไนด์ไม่ถูกควบคุม ก็จะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก ดังนั้น จึงได้ให้แนวทางไปแล้วว่า ควรจะต้องไปวางมาตรการให้รัดกุมมากขึ้น

“ช่องโหว่ที่พบขณะนี้คือ อยู่ที่ระเบียบ แต่ช่องโหว่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบ คือเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ลงไปตรวจ ได้มีการตรวจหรือไม่ หากไม่ทำตามหน้าที่ หรือบกพร่องต่อหน้าที่ ถือว่า เป็นเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157” รอง ผบ.ตร. ชี้แจง

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ส่วนบุคคลที่นำไซยาไนด์ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น นักแสดงสาว “ไอซ์ ปรีชญา” ที่นำไปใช้ไล่สัตว์เลื้อยคลาย เป็นหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่จะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยให้ตำรวจเป็นผู้ทำสำนวน ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมข้อมูลจากการสอบปากคำบุคคลนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว

ส่วนความคืบหน้าคดี “แอม ไซยาไนด์” วันนี้เป็นการมอบหมายงาน เก็บประเด็นรายละเอียดในสำนวน การสอบสวนในทุกคดีที่ยังขาดอยู่ หลังจากโอนสำนวนมาที่กองปราบปราม และหลังจากนี้ กองปราบฯ จะลงพื้นที่ไปเก็บรายละเอียดในทุกคดีเพิ่มเติม โดยคดี น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ “ทราย” ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ วันพรุ่งนี้ จะมีการออกหมายจับ “แอม” เพิ่ม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ขณะที่พนักงานสอบสวน ยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ว่าสามารถออกหมายจับในข้อหาอื่นได้อีกหรือไม่ โดยขอเวลาภายใน 2 วัน จะสามารถให้คำตอบได้ หากไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม ก็จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมให้ได้ และคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า การสอบสวนจะแล้วเสร็จ 100%

สำหรับคดี ก้อย เท้าแชร์ ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 80% ซึ่งเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแต่ละคดีเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด ก็จะมีการส่งฟ้องอัยการ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยขณะนี้ยังรอข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และเส้นทางการเงินบัญชีทั้งหมดเพื่อประกอบสำนวนคดี