สถานการณ์ 'ไฟป่า' หมอกควัน 'PM 2.5' เชียงรายกระทบหนัก วอนช่วยเฝ้าระวังภัย

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก "PM2.5" ประชุมร่วมกับ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงราย และ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่2(เชียงราย) และผอ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และเกษตรจังหวัดเชียงราย 

โดยนายวราวุธ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสถานการณ์ "ไฟป่า" ท้องที่อำเภอแม่สาย แม่จัน เมือง และแม่สรวย ซึ่งเป็นไปตามแนวเขาขุนน้ำนางนอน ดอยตุง ดอยจระเข้ ท้องที่ตำบลแม่ยาว ห้วยชมพู วาวี และแม่สรวย

นายวราวุธ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าป่าไม้ได้รับความเสียหายไปมากพอสมควร และทุกครั้งที่เกิด "ไฟป่า" ความเสียหายของป่าไม้เทียบไม่ได้กลับมลภาวะทางอากาศที่เกิดขึ้นเลยเพราะ "PM2.5"  ที่จะค้างอยู่ในอากาศทำให้ส่งผลต่อผู้คนที่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว 

อย่างไรก็ตามวันนี้จุดความร้อนหายไปมากแล้ว เพราะฝนตกเมื่อสองวันที่ผ่านมา ควันไฟที่ยังมีคือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน พรรคชาติไทยพัฒนาอยากเสนอให้ลงโทษบริษัท ที่ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนที่ก่อให้เกิดควันไฟ เห็นใจประชาชนในพื้นที่ 

แนวทางแก้ปัญหาระยะสั้นคือขอความร่วมมือฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มความเฝ้าระวังในหมู่บ้าน ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพราะได้รับรายงานว่า ช่วงเวลาที่มักจะเกิดจุดความร้อนคือ ตี2 - ตี5 แสดงให้เห็นว่ามีคนไม่ดีที่จงใจเข้าไปจุดไฟเผาป่า และขอความร่วมมือชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย เพราะไม่อยากให้เกิดความเดือดร้อนต่อชีวิตและทรัพย์สิน

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ไปอีกสองเดือน ในส่วนของป่าอนุรักษ์ขอให้เข้มงวดเรื่องการลาดตระเวน ส่วนป่าสงวน ขอให้ทุกหน่วยงานต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา หากพูดคุยกันไม่รู้เรื่องคงต้องเน้นภาคบังคับ ขอให้ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่กระทรวงทัพย์ฯ  ไปช่วยกันคิดหาวิธีจะทำอย่างไรไม่ให้เผา เช่น ถ้านาใครไม่เผา ขอกู้เพิ่มจาก ธกส. ได้หรือไม่ หรือสหกรณ์จะช่วยอย่างไร ซึ่งขอให้ทางเกษตรจังหวัดไปช่วยคิดหาวิธีด้วย

คำแนะนำทางสุขภาพ

ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์

สำหรับประชาชน​ที่อยู่​บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ​ (พื้นที่สีแดง)​ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์