ข่าว

'วัคซีนโควิด' ยังต้องฉีดหรือไม่ กลุ่มไหนควรฉีด เริ่มฉีดตอนไหนถึงจะได้ผล

'วัคซีนโควิด' ยังต้องฉีดหรือไม่ กลุ่มไหนควรฉีด เริ่มฉีดตอนไหนถึงจะได้ผล

23 เม.ย. 2566

'หมอยง' มีคำตอบ 'วัคซีนโควิด' ยังต้องฉีดหรือไม่ เน้นที่กลุ่มไหน และเริ่มฉีดตอนไหนถึงจะได้ผล ขณะที่ ในสหราชอาณาจักร พบผู้เสียชีวิตจาก XBB.1.16 แล้ว 5 ราย

'หมอยง' ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก Yong Poovorawan เปิดเผยถึงสถานการณ์ 'โควิด19' มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้เข้าปีที่ 4 เริ่มต้นความรุนแรงของโรคสูง จึงจัดว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง เราแย่งหาวัคซีน ต่อมาเมื่อความรุนแรงของโรคลดลง ในอีก 2 ปีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และในปัจจุบันนี้โควิด 19 ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นโรคประจำฤดูกาล 

 

 

การให้ 'วัคซีนโควิด' ก็ปรับเป็นการให้วัคซีนแบบโรคประจำฤดูกาล จะให้ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลของโรค และจะปรับเป็นปีละครั้งเช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่

 

ฤดูกาลของโรคที่จะมีการระบาดเพิ่มสูงขึ้น ในแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน เช่นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ที่มีฤดูหนาว การระบาดของโรคก็จะเกิดขึ้นในฤดูหนาว ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น ถึงแม้ว่าจะอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร แต่ก็ไม่มีฤดูหนาวที่แท้จริง มีร้อนมาก กับร้อนน้อย การระบาดของโรคในประเทศไทยจึงพบได้ตลอดปี แต่จะพบสูงสุดในต้นฤดูฝน หรือการเปิดเทอมแรกของนักเรียน 

 

 

'วัคซีนโควิด' ไม่สามารถป้องกันการติดโรคได้เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ การให้วัคซีนจึงมุ่งเน้นในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง 608 ผู้คนที่อยู่หนาแน่นเช่นในเรือนจำ เรือนทหาร และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มที่จะเสี่ยงติดทั้งโรคง่าย ควรให้ตามฤดูกาลปีละ 1 ครั้ง

 

 

เวลาที่เหมาะสมในการให้วัคซีนสำหรับประเทศไทยก็คือก่อนที่จะมีการระบาดของโรคที่จะเกิดขึ้นในการเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ดังนั้นเวลาที่ให้วัคซีนที่เหมาะสมประจำปีจึงเป็นปลายเดือนเมษายน พฤษภาคม ของทุกปี 

 

 

ดังนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนมานานแล้วเกินกว่า 3-6 เดือนขึ้นไป และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรให้วัคซีนประจำฤดูกาลปีละ 1 ครั้ง ในปีนี้สามารถเริ่มให้ได้เลยก่อนที่จะมีการระบาดของโรค โดยใช้สายพันธุ์ที่ใกล้เคียงที่สุดที่มีอยู่ แล้วค่อยไปให้ปีหน้าอีก 1 ครั้ง ทุกอย่างก็จะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่

 

 

ในคนปกติก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจเช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่ แต่ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มเปราะบางดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เพื่อลดความรุนแรงของโรค

 

ด้าน 'หมอธีระ' รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสัดส่วนสายพันธุ์ในอเมริกา ล่าสุดข้อมูลจาก US CDC ชี้ให้เห็นว่า โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย XBB.x นั้นครองการระบาดในสัดส่วนกว่า 97% ของทั้งหมด โดย XBB.1.5 เยอะสุด 73.6% ส่วน XBB.1.16 ตรวจพบในสัดส่วนที่สูงขึ้นเป็น 9.6% (สัปดาห์ก่อนพบราว 7%)

 

 

ในสหราชอาณาจักร ข้อมูลจนถึง 17 เม.ย. 2566 พบว่า ในบรรดาจำนวนที่ส่งตรวจสายพันธุ์ ตรวจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 รวมแล้ว 105 ราย เสียชีวิตไป 5 ราย (หรือเสียชีวิตราว 1 ต่อ 20) ในจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ แต่ก็พบว่าติดได้ทุกช่วงวัย

 

 

ลักษณะการระบาดทั่วโลกตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน กราฟการระบาด ชี้ให้เห็นว่า การระบาดของ โควิด-19 ไม่ได้เป็นไปตามฤดูกาล แต่มีลักษณะขึ้นลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีปัจจัยที่ส่งผลคือ การเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ ซึ่งยังยากในการคาดการณ์ล่วงหน้า รวมถึงนโยบายในการควบคุมป้องกันโรคของแต่ละประเทศ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของประชาชน