'ไฟป่า' จังหวัดภาคเหนือกลับมาวิกฤต หวิดคลอกคนทำแนวกันไฟ ทำค่า PM2.5 พุ่ง

'ไฟป่า' ในเขตจังหวัดทางภาคเหนือกลับมาวิกฤตอีกครั้ง ยังคงมีการลุกไหม้อยู่หลายจุด โดยบนดอยปุย สถานที่ตั้งเสาสถานีทวนสัญญาณของสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ในเขตพื้นที่ ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย ไฟป่า ได้ลุกลามเข้ามาเกือบถึงเสาส่งสัญญาณ ทำให้เจ้าหน้าที่และราษฎรอาสาดับไฟป่าในพื้นที่ ทำการควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดไว้ได้ จึงยังไม่กระทบกับระบบทวนสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนดอยปุย

 

 

ขณะที่ไฟป่าบนดอยจระเข้ เขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะดับสนิท โดยเฉพาะไฟป่าในท้องที่บ้านห้วยก้างปลา ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ที่ยังคงลุกไหม้รุนแรง และเกือบเกิดเหตุสลด เพราะขณะที่เจ้าหน้าที่และราษฎรอาสาดับไฟป่าเดินเท้าขึ้นไปทำแนวกันไฟอยู่บนดอย พบว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่มจุดไฟเพื่อล่าสัตว์หรือหาของป่า จนทำให้ไฟลามขึ้นไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ และราษฎรอาสากำลังทำแนวกันไฟจนต้องหนีไฟที่โหมไหม้จนเกือบถูกไฟคลอก

 

ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ขอให้เห็นใจขอให้งดจุดไฟในป่าช่วงนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่และราษฎรอาสาดับไฟป่า

 

 

สำหรับการตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่ จ.เชียงราย ในเช้าวันนี้ พบจุดความร้อนรวม 178 จุด กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอต่างๆ ดังนี้

 

• อ.แม่สรวย 46 จุด
• อ.แม่จัน 31 จุด
• อ.เมืองเชียงราย 22 จุด
• อ.เวียงแก่น 19 จุด
• อ.เวียงป่าเป้า 17 จุด
• อ.พาน 12 จุด
• อ.แม่ฟ้าหลวง 7 จุด
• อ.เทิง 6 จุด
• อ.เชียงของ 6 จุด
• อ.เวียงเชียงรุ้ง 3 จุด
• อ.ดอยหลวง 2 จุด
• อ.ป่าแดด 2 จุด
• อ.พญาเม็งราย 2 จุด
• อ.เชียงแสน 1 จุด
• อ.ขุนตาล 1 จุด
• อ.แม่ลาว 1 จุด

 

มีเพียง 2 อำเภอคือ อ.แม่สาย และ อ.แม่ลาว เท่านั้นที่ไม่พบจุดร้อน

 

 

ด้านสถานการณ์ หมอกควันฝุ่นพิษ ใน จ.เชียงราย ยังวิกฤติ โดยเฉพาะชายแดนไทย-เมียนมาทางด้านอำเภอแม่สาย ซึ่ง ณ เวลา 08.00 น. ของเช้าวันนี้ กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการวัดปริมาณ ฝุ่น PM2.5 ได้สูงถึง 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อยแต่ว่ายังสูงที่สุดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ขณะที่ชายแดนไทย-ลาวทางด้านอำเภอเชียงของวัดได้ 191 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอำเภอเมืองเชียงรายวัดได้ 186 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศทั่วทั้ง จ.เชียงราย ยังคงเป็นสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ

 

 

ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับ 'ไฟป่า' จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับฝ่ายปกครอง และ ชาวบ้านเร่งเข้าดับไฟป่าหลายจุดใน จ.เชียงใหม่ หลังเสร็จสิ้นเทศกาลสงกรานต์ เริ่มมีคนเข้าไปลักลอบจุดไฟเผาป่า เพื่อหาของป่า และล่าสัตว์ ทำให้หลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้น 

 

 

ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จัดหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนในวันที่ 17 เม.ย. 2566 รอบเช้า พบจุดความร้อน 209 จุด สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 เกิดจุดความร้อนแล้ว 11,712 จุด  ถือว่า เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จุดความร้อนลดลง อย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบในเบื้องต้น สาเหตุของไฟป่าล้วนมาจากการลักลอบจุดไฟเผาป่า เพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ จึงต้องเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เพราะคาดว่าจะยังคงมีการลับลอบเผาอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงหลังสงกรานต์นี้ 

 

 

ด้านภาพรวม คุณภาพอากาศ ในภาคเหนือวันนี้ จากรายงานของสถานีตรวจวัดกรมควบคุมมลพิษจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีอยู่รวม 6 จุด มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทุกจุด โดยที่สถานี ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีค่า PM2.5 สูงที่สุด  212 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ สถานีในตัวเมือง อย่าง ตำบลช้างเผือก และ ศรีภูมิ วัดได้ 96 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทุกอำเภอใน จ.เชียงใหม่ ยังคงต้องเผชิญกับปัญหามลพิษอากาศที่เรียกได้ว่าวิกฤตหนัก ต่อเนื่องมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว

 

 

 

โดย : ณัฐวัตร ลาพิงค์ / วสันต์ ปัญญาเรือน