ข่าว

1 เม.ย.66 'บัตรคนจนรอบใหม่' เริ่มใช้จ่ายกี่โมง เช็กเงื่อนไขการใช้ ที่นี่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีเดย์ 1 เม.ย.66 'บัตรคนจนรอบใหม่' บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้จ่ายผ่าน บัตรประชาชน เริ่มกี่โมง ทำอะไรได้บ้าง เช็กด่วน มีเงื่อนไขใหม่

1 เม.ย.2566 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรคนจนรอบใหม่” ดีเดย์ใช้ครั้งแรก สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ ภายในวันที่ 26 มี.ค.2566 จะสามารถใช้จ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรประชาชนแบบสมาร์ตการ์ด แทนบัตรคนจนได้เลย ดังนั้น เวลาไปซื้อของที่ร้านธงฟ้า หรือร้านที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องนำบัตรประชาชนให้ร้านสแกนจ่าย

 

 

ส่วน “บัตรคนจนรอบใหม่” จะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ตอนไหน เงินเข้าเมื่อไร ได้รับค่าอะไรบ้าง สามารถกดเงินสดได้เหมือนบัตรคนจนใบเดิมหรือไม่ มาตรวจสอบปฏิทินเงินเข้าเดือน เม.ย.2566 กันได้เลย

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 เม.ย.2566 เป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ ภายในวันที่ 26 มี.ค.2566 (ผู้มีสิทธิฯ) ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 12,565,862 ราย สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ดังนี้

 

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.

 

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.

 

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

 

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  • รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  • รถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่ง เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ได้แก่

 

  • รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  • รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  • รถสองแถวรับจ้าง
  • เรือโดยสารสาธารณะ

 

4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

 

5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

 

  • กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
  • แต่หากผู้มีสิทธิ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

ไทม์ไลน์ใช้จ่ายบัตรคนจนรอบใหม่

ทั้งนี้ สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา จะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าว ก่อนการเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลาง จะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่

 

  1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง
  2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
  4. สำนักงานการประปานครหลวง
  5. สำนักงานการประปาภูมิภาค

 

ดังนั้น บัตรคนจนรอบใหม่ จะไม่มีเงินค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปาฟรี โอนเข้าบัตรอีกต่อไป แต่ทางกรมบัญชีกลาง จะเป็นผู้ชำระค่าบริการให้กับหน่วยงานเอง และบิลค่าไฟ-ค่าน้ำ ที่ส่งมาที่บ้านของเรา จะแสดงยอดเงินเป็น 0 บาท

 

อย่างไรก็ดี เนื่องจากเป็นครั้งแรกของประชาชนที่จะมีการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ก๊าซหุงต้ม และค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบกับเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้เปิดให้บริการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) ในช่วงวันที่ 1-2 เม.ย.2566 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน กรณีผู้มีสิทธิ มีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center โทร. 02-109 2345

 

สำหรับผู้ประกอบการร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ขอให้เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และปรับปรุงแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้เป็นรุ่น (version) ปัจจุบัน เพื่อรองรับการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิฯ โดยสามารถดำเนินการได้ ดังนี้

 

  1. ร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านเครื่อง EDC สามารถปรับปรุงระบบให้เป็น version ปัจจุบัน ได้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป
  2. ร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถปรับปรุงระบบให้เป็น version ปัจจุบันได้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2566 เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ หากร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด พบปัญหาในการปรับปรุงระบบ ให้เป็น version ปัจจุบัน หรือมีข้อสงสัยต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลแก้ไขปัญหาร้านค้า (Merchant Call Center) โทร 02-111 1111 กด 2 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ทั้งนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ เนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่าน ให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหากตรวจสอบ และแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้ง นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ อาจเกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน

 

ซึ่งผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ กรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน ขอให้ติดต่อธนาคารกรุงไทย เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยต่อไป 

 

ไทม์ไลน์ใช้สิทธิ ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลัง 26 มี.ค.2566

 

  • ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 มี.ค.- 26 เม.ย. 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 พ.ค. 2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือนเมษายนทบมาอีก 300 บาท
  • ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 เม.ย.- 26 พ.ค.2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 มิ.ย.2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือน เม.ย.-พ.ค.ทบมาอีก 600 บาท
  • ยืนยันตัวตนสำเร็จวันที่ 27 พ.ค.- 26 มิ.ย.2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 ก.ค.2566 และได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าของเดือน เม.ย.-มิ.ย. ทบมาอีก 3 เดือน จำนวน 900 บาท
  • ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.2566 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 ส.ค.2566 แต่จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง

 

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.2566 เวลา 13.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ จำนวนทั้งสิ้น 12,830,846 ราย (ร้อยละ 87.90 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย) และจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,209,231 ราย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ