ข่าว

ศาลสั่งจำคุก 13 'กปปส.' ขวางรับสมัครเลือกตั้งปี 56 คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอาญา สั่งจำคุก 13 "กปปส." ปิดล้อมอาคารกีฬาเวสน์ 2 ขวางการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ปี 2556 คนละ 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 โทษจำคุกไม่รอลงอาญาเหตุพฤติการณ์แห่งคดีมีความร้ายแรง

28 มี.ค.2566  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ขัดขวางรับสมัคร ส.ส. คดีดำ อ.231/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายชานนท์ ขันทอง กับพวกรวม 13 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ
 

โดยคดีนี้อัยการยื่นฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2556  จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมีและใช้อาวุธ โดยข่มขู่ ประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ โดยใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง ขว้างปา ยิงลูกแก้ว หัวน็อต ไม้หน้าสาม ก้อนซีเมนต์ตัวหนอน เข้าใส่เจ้าพนักงาน ถอยรถขนขยะชนประตูเพื่อเปิดทางแล้วปิดล้อมประตูทางเข้าที่ 1 และ 2 ของศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง

 

 

 
 

ก่อนบุกเข้าไปในภายอาคาร กีฬาเวสน์ 2 ปิดล้อมอาคาร ขัดขวางมิให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)แบบบัญชีรายชื่อ  ระหว่างวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 2556 เวลา 08.30 น.-16.30 น. อันเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษพวกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58,83,90 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณกรรมการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 
  

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 13 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรสอง , 216 , 365 (1) (2) ประกอบมาตรา 362 , 364 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 มาตรา 43 วรรคสอง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 
   

การกระทำของจำเลยทั้ง 13 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์และเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90  ให้จำคุกคนละ 2 ปี  เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน 

 

 

จำเลยที่ 1-9 และที่ 11-13 ให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 4 , จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1, ที่ 3-9 และที่ 11-13 คนละ 18 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 24 เดือน จำคุกจำเลยที่ 10 มีกำหนด 16 เดือน 

 

พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มก่อเหตุรุนแรงต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่รักษาความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุ จำเลยทั้ง 13 ก็ควรเลิกชุมนุมตามที่เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งให้เลิก แต่จำเลยทั้ง 13 กลับไม่เลิกชุมนุมแล้วยังบุกรุกเข้ามาในที่เกิดเหตุอีก

 

พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยทั้ง 13 บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 4 ที่รอการลงโทษไว้ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 13530/2555 จำนวน 3 เดือน และในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 13531/2555 จำนวน 3 เดือน ของศาลแขวงธนบุรี เข้ากับคดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 24 เดือน บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 5 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 336/2555 จำนวน 1 เดือน ของศาลแขวงพระโขนงเข้ากับคดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 19 เดือน นับโทษจำคุกจำเลยที่ 7 ในคดีนี้ ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ย 704/2563 ของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ