
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรมแนะเปิดเจรจารบ.-นปช.รอบ3
อดีตรองนายกฯ "ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม" เปรียบประเทศเหมือนร่างกาย มีแขนซ้ายแขนขวา ทะเลาะกันจนเลือดทั้งตัวออก แนะเปิดเจรจารอบ 3 ต้องดึงผู้เชี่ยวชาญมาจัดการเจรจา พร้อมเชิญฝ่ายอื่น เช่น พันธมิตรฯ เข้ามาร่วมวงถกด้วย ยก มิตรภาพบำบัด" ประยุกต์รักษาโรคขัดแย้งในส
ที่โรงแรมรามาการ์เด้น เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “มิตรภาพบำบัด เพื่อนช่วยเพื่อนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์” พร้อมบรรยายพิเศษเรื่อง “เยียวยา โรคและโลก ด้วยมิตรภาพบำบัด”ว่า ประเทศไทยตอนนี้เลือดออกแล้ว แต่ก็เคยเลือดออกมากกว่านี้ ครั้งนี้เลือดออกแค่ซิบๆ ประเทศไทยคงไม่ตายง่ายๆ แต่ในระยะยาวมีความเป็นไปได้ที่ประเทศจะหายไป แต่ในระยะสั้นก็มีสิทธิ์ล้มหมอนนอนเสื่อได้ถ้าไม่ระวัง
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเปรียบเทียบในการบรรยายว่าประเทศไทยเปรียบเหมือนร่างการมนุษย์แขนซ้ายแขนขวาทะเลาะกัน ขีดกัน ข่วนกัน กดดัน บีบกัน ตอนนี้เลือดเริ่มไหลแล้ว เลือดที่ไหลไม่ใช่เลือดที่แขน แต่เป็นเลือดของทั้งร่างกายคน เพราะฉะนั้นส่วนอื่นๆของร่างกายเดือดร้อน ถึงได้มีหลายๆฝ่าย มาระดมความคิดกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำตอนนี้มีเวทีเยอะไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่หลายๆฝ่ายในสังคมต้องมาช่วยกัน เพราะเรื่องที่ขัดแย้งกันอยู่ เรื่องยุบสภา การเมือง ปัญหาสังคม หรือปัญหาต่างๆ ไม่ใช่เรื่องของคนสองฝ่าย แต่เป็นเรื่องของคนทั้งสังคม เป็นเรื่องของคนไทยทั้งหมด ดังนั้นคนไทยทั้งหมดควรมีโอกาสและมีส่วนร่วมในการมาช่วยกันคลี่คลายปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเสนอให้จัดทำประชามติว่าจะเป็นทางออกได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในหลายๆวิธีการต้องแล้วแต่เรื่อง กาลเวลา จังหวะท่าที ไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จ แต่ทั้งหมดจะได้มาจากการได้พูดจากัน คู้ขัดแย้ง และอาจจะรวมถึงคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ถ้าได้มาพูดจากันปรึกษาหารือกันไม่ใช่มาโต้เถียงกัน โดยเอาเป้าหมายเป็นตัวตั้ง เป้าหมายถึงประเทศไทยกลับคืนสู่ความเป็นปกติ ประชาชนอยู่เย็นไปสุข เพื่อการที่เราต้องการการเมืองที่ดี เศรษฐกิจที่ดี สังคมที่ดี ระบบยุติธรรมที่ดี และอื่นๆ เราก็มาช่วยหาทางทำ
เมื่อถามว่า การเจรจาครั้งต่อไปควรจะมีบุคคลอื่นมาร่วมด้วยหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเจรจาสองฝ่ายที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายคงได้เรียนรู้แล้วว่า การเจรจาให้ดีขึ้นต้องทำอย่างไร แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายจะใจกว้างและคิดว่าคนฝ่ายอื่นๆเขาก็เกี่ยวข้อง เป็นเจ้าของปัญหาด้วย เป็นเจ้าของประเทศ เชิญชวนเขาเข้ามา อาจมาช่วยจัดกระบวนการให้ มีคนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิธีจัดกระบวนการการเจรจาให้มาช่วยจัดกระบวนการให้ ซึ่งเขาคงไม่มาสอดแทรกเรื่องเนื้อหาสาระ แต่มาช่วยกระบวนการเจรจาให้เรียบร้อยให้การพูดจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ร่วมกัน ต้องเน้นคำว่าได้ประโยชน์ร่วมกัน ได้ข้อตกลงที่พอใจร่วมกัน การเจรจาที่ดีนั้นเป้าหมายคือได้ข้อตกลงที่พอใจร่วมกัน ฉะนั้นไม่มีใครแพ้ใครชนะ ถ้าจะเรียกว่าชนะคือชนะทั้งคู่ชนะด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเสนอตัวในการจัดการเจรจาหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ของอย่างนี้ทั้งสองต้องตกลงว่าอยากได้ใคร ที่เขาเห็นฟ้องต้องกันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาเสนอตัว แต่คนที่ทำได้มีหลายคน ที่ศึกษาเรียนรู้หรือไม่ประสบการณ์นอกจากนั้นยังสามารถจะมีคนอื่นๆมาช่วยขบช่วยคิดด้วยเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมือง ข้อนี้ต่างจากคนจัดกระบวนการอย่างหนึ่ง กับคนที่มาเป็นผู้ร่วมเจรจา เพราะปัญหาที่ขัดแย้งคือจะยุบสภาหรือไม่ยบุสภาหรือยุบเมื่อไหร่ดีหรือจะมีเงื่อนไขอะไรอีกบ้าง เงื่อนไข 3 ข้อของนายกฯพอไหมหรือจะมีอื่นๆ เรื่องอย่างนี้ยังมีอีกหลายฝ่ายในสังคมที่เกี่ยวข้อง และสามารถและควรจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ถ้าทั้งสองฝ่ายจะคิดให้ดีว่าเป้าหมายสุดท้ายคือสังคมไทยดีขึ้นและมีเพื่อนๆร่วมสังคมเข้ามาการคลี่คลายปัญหาจะง่าย จะเกิดผลดีร่วมกัน จะชนะกันหมด รัฐบาลก็ชนะ นปช.ก็ชนะ สังคมก็ชนะแต่ถ้ายื้อกันไปเรื่อยๆ ทุกคนแพ้หมดทุกคนเสียหายหมด
เมื่อถามว่า เงื่อนไขเวลาการเจรจาควรเป็นเมื่อไหร่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เราทำนายไม่ได้ แต่ควรเอาใจช่วยหนุนให้เขาพยายามเป็นเรื่องต้องพยายามไม่ใช่มาคาดคะเนว่าได้หรือไม่ได้หรือจะได้เมื่อไหร่ แต่ควรต้องพยายาม สองฝ่ายควรพยายาม คนอื่นสามารถทำอะไรได้ก็พยายาม ขณะนี้มีหลายฝ่ายกำลังพยายามทั้งช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระยะสั้นและที่สำคัญคือมาช่วยกันแก้ปัญหาประเทศไทยระยะยาวหรือบางคนใช้คำพูดว่า มาช่วยกันปฏิรูปประเทศไทย หรือ ปฏิรูปการเมืองสังคมเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดผลดีร่วมกันหมด และว่าภารกิจควรเป็นของสังคมไทย หลายๆฝ่ายร่วมกันรวมรัฐบาลด้วย นปช.ด้วย พันธมิตรด้วย เพราะทุกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ที่เรียกว่าสังคมไทย
เมื่อถามว่า สามารถใช้มิตรภาพบำบัดมาประยุกต์แก้ปัญหาได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ถ้าเราประยุกต์คำว่ามิตรภาพบำบัดหมายถึงการใช้ความรัก ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ การมองโลกในแง่ดี มีความปรารถนาดี ช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ช่วยได้ ถ้าเผื่อคู่เจรจา คู่ขัดแย้งและคนอื่นๆตั้งสติให้ดี เอาส่วนดีของทุกคนออกมา ซึ่งส่วนของทุกคนคือการมีความรัก ความเมตตาที่ดีต่อกัน และขยายไปสู่ที่คนที่มองว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม อย่างน้อยจะมีความอดทนอดกลั้น เห็นอกเห็นใจ เปิดใจกว้างรับฟัง เป็นการใช้ความเป็นมิตรไมตรีมาช่วยให้เปิดใจกว้างรับฟังมากขึ้น ช่วยกันคิดช่วยทำ เพื่อแก้ปัญหาซึ่งเป็นปัญหาร่วมกัน แล้วจะเกิดผลดีร่วมกัน มิตรภาพบำบัดถ้าทำแล้วคนที่เป็นโรคก็ดีขึ้น คนที่ไปช่วยก็ดีขึ้น ดีขึ้นทั้งสองฝ่าย ถ้าประยุกต์เข้ากับความขัดแย้งในประเทศไทย ใช้ความรัก เมตตา อดอดกลั้น มีสติ ใช้ปัญญา ก็สามารถจะคลี่คลายความขัดแย้งคือบรรเทาโรคนี้ และไปสู่สุขภาวะที่ดีขึ้น คือประเทศกลับสู่ความเป็นปกติสุขมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแปรในการเจรจาหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตัวแปรเยอะ คนเกี่ยวข้องหลายฝ่ายบางที่เราก็ไม่รู้ว่าใครทำอะไรที่ไหนบ้าง เอาเป็นว่า สถานการณ์เป็นอย่างไรก็ตามเราก็ควรให้รู้ให้เข้าใจและก้าวจากสถานการณ์นั้นไปสู่สถานการณ์ที่ดีกว่าด้วยการใช้จิตใจ ใช้ความดี ใช้สติปัญญาความสามารถร่วมมือกัน ตามแนวมิตรภาพบำบัด