ข่าว

'รมว.อว.' ยืนยัน ไม่พบค่า 'ซีเซียม' เกินมาตรฐานทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'รมว.อว.' ยืนยัน ปส.ตรวจสอบค่า 'ซีเซียม' ไม่พบเกินมาตรฐานทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ยังไม่รับรายงานมีผู้ป่วยเข้ารักษารพ.

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยความคืบหน้าพบ "สารซีเซียม 137" สารกัมมันตรังสีว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกมากนัก แต่ยังต้องระวัง จากการตรวจดิน น้ำ อากาศ 2 จุดคือ จุดที่ซีเซียมหาย และจุดที่พบซีเซียมนั้น ไม่มีค่าของกัมมันตรังสีที่มากกว่าค่าปกติในระดับที่เป็นอันตราย รวมถึงยังตรวจทั่วประเทศอีก 18 จุด ในน้ำ ในทะเลอีก 5 จุด ซึ่งทั้งหมดรายงานว่า ในประเทศไทยยังไม่พบระดับซีเซียมที่เกินกว่าพื้นฐาน ขอให้เบาใจได้ 

นอกจากนี้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านขอให้รายงานเข้ามาและรายงานต่อองค์การระดับโลกที่ควบคุมเกี่ยวกับกัมมันตรังสี ได้รับทราบด้วยว่าปริมาณซีเซียมที่มีอยู่ในดิน น้ำ อากาศ ประเทศรอบบ้านของไทยไม่มีระดับที่ผิดปกติอะไร ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะมั่นใจ

 

ส่วนผู้บาดเจ็บหรือเสียหายทางสุขภาพจากกัมมันตรังสียังไม่มีรายงานทั้งจากโรงพยาบาลหรือมหาวิทยาลัยในสังกัดกระทรวง อว. และโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเบาใจเพิ่มขึ้น แต่ไม่ละเลย โดยวันนี้จะเชิญคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของโรงเรียนแพทย์ทั้งหมดกว่า 20 แห่งเข้าประชุมสั่งการและให้เตรียมการ

ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจและให้ความรู้ มีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเข้าไปตั้งกองบัญชาการส่วนหน้า มีนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ระดับนำไปอยู่ในพื้นที่เช่นกัน และขอความร่วมมือให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีคณะวิชาหรือสาขาที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปรมาณูและกัมมันตรังสี เข้ามาตรวจสอบด้วย พร้อมเชิญสื่อมวลชนมาร่วมรับรู้การตรวจวัดปริมาณซีเซียมว่าไม่มีปริมาณอันตราย ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีกำชับต้องปิดเผยข้อมูลกับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่รายงานเท่านั้น ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือโรงงานอย่างแน่นอน

 

ส่วนที่มีนักวิชาการออกมาระบุต้องเฝ้าตรวจสอบหลายปีนั้น ดร.เอนก กล่าวว่า ให้ใช้เวลาเต็มที่เพื่อให้ประชาชนสบายใจ และจะสอบถามไปยัง IAEA ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกัมมันตรังสีทั่วโลกว่ามีรายงานสารซีเซียมไปโผล่ประเทศใดหรือไม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ