
ป่วนบาเจาะยิงถล่มร้านน้ำชาตาย3เจ็บ9
โจรใต้ป่วนบาเจาะไม่เลิก ยิงถล่มร้านน้ำชา ชาวบ้านเสียชีวิต 3 บาดเจ็บอีก 9 ราย
เมื่อเวลา 22.30 น.คืนวันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.สุชาติ หมีลำพอง ร้อยเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ของนายเยาะมะ สะแม ซึ่งสร้างติดกับบ้านพักเลขที่ 34/1 ม.4 ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำ นวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผกก.สภ.บาเจาะ น.ท.นฤมิต ศุขสมิติ ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 รวมทั้งตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านช่วยนำตัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบาเจาะอย่างเร่งด่วน และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่กระจัดกระจายภายในร้านและริมถนน รวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้และฝาผนังมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุนจำนวนหลายแห่งโดยเฉพาะที่บริเวณริมถนนเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงคราม เอ็ม.16และอา.ก้า.ตกอยู่กว่า 30 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลทราบชื่อมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ 1. นายหะแว ตาเกอารี 2. นาย ฮารง ตาเกอารี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และ 3. นายนิเย๊ะ ต่วนเวาะ ซึ่งถูกกระสุนปืนที่ลำตัวพรุนทั้งร่าง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ซึ่งถูกกระสุนปืนตามบริเวณลำตัว แขนและขา คือ 1.นางซือมะ มูนา เจ้าของร้านซึ่งเป็นภรรยานายเยาะมะ 2. นายแวอาเซ็ง วาเต๊ะ 3. นายฮาเล็ม ยาสะมะแม 4. นายอิสมะแอ ตะมารา 5. นายสือแม อูมารอ 6. นายมะรา สาและ 7. นาย ซูอารี อาแวสาและแม ส่วนรายที่ 8. และ 9.ยังไม่ทราบชื่อ เนื่องจากแพทย์ปฐมพยาบาลด้วยความชุนละมุนในเบื้องต้นแล้วเสร็จ บุคคลทั้ง 2 ได้เดินทางกลับบ้านพัก ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 7 รายที่เหลืออาการสาหัส แพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นางมูนา เจ้าของร้านกำลังยืนชงน้ำชาให้ลูกค้า ซึ่งกำลังนั่งรอและนั่งดื่มน้ำชาอยู่ภายในร้าน จำนวนกว่า 10 คนนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนนั่งรถยนต์กระบะสีดำ 4 ประตู ไม่ทราบยี่ห้อและแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะมาจอดอยู่ที่หน้าร้าน จากนั้น 2 คนร้ายซึ่งนั่งกระบะหลัง ได้ถืออาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 และอา.ก้า. คนละกระบอกกระโดดลงจากรถ พร้อมยิงใส่กลุ่มชาวบ้านที่กำลังนั่งดื่มน้ำชา จำนวนกว่า 30 นัดซ้อน ทำให้ชาวบ้านที่ถูกกระสุนปืนต่างล้มระเนระนาดตกจากเก้าอี้ ส่วนที่เหลือต่างวิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด จากนั้นคนร้ายได้รีบวิ่งขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันของกลุ่มผู้ไม่หวังดี