ข่าว

'วิธีคำนวณภาษี 2566' สรุปขั้นตอนง่ายๆ ก่อน ยื่นภาษี ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใกล้สิ้นสุด ยื่นภาษี แล้ว เช็ก 'วิธีคำนวณภาษี 2566' สรุปขั้นตอนง่ายๆ พร้อม โปรแกรมคำนวณภาษี ก่อนยื่น ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน

ใกล้หมดเขต “ยื่นภาษี 2566” (รายได้ปี 2565) ที่ทางกรมสรรพากร เปิดให้มีการยื่นภาษี สำหรับผู้มีรายได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 2566 ซึ่งเมื่อถึงเวลาต้องยื่นภาษีแล้ว การวางแผน ลดหย่อนภาษี การคำนวณภาษี เพื่อรักษาสิทธิ เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด

 

คมชัดลึก รวบรวม “วิธีคำนวณภาษี 2566” ก่อนยื่นภาษีอย่างเป็นทางการ เพราะถ้าหากยื่นไปแล้ว เกิดมีการคำนวณผิดพลาด สิทธิลดหย่อนภาษี ก็ไม่สามารถเอาคืนได้ มีวิธีอย่างไรไปอ่านรายละเอียดกันได้เลย

ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี

 

  • คนโสด มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 120,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่นๆ ปีละ 60,000 บาทขึ้นไป
  • คนมีคู่ มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 220,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่นๆ ปีละ 120,000 บาทขึ้นไป

 

วิธีคำนวณภาษี 2566 

 

  • เงินได้สุทธิ 0 – 150,000 บาท (อัตราภาษี 0% หรือได้รับการยกเว้นภาษี) ...
  • เงินได้สุทธิ 150,000 – 300,000 บาท (อัตราภาษี 5%) ...
  • เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท (อัตราภาษี 10%) ...
  • เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท (อัตราภาษี 15%) ...
  • เงินได้สุทธิ 750,001 – 1 ล้านบาท (อัตราภาษี 20%)

วิธีคำนวณภาษี

วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

  • ขั้นตอนที่ 1 คำนวณเงินได้สุทธิ

 

คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีก่อน โดยสามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งปีมารวมกัน แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตร

 

รายได้ทั้งปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

 

ซึ่งเราสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนค่าลดหย่อน จะมีอยู่หลายอย่างที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ แต่ที่เราสามารถนำมาลดหย่อนได้ทันทีเลย คือ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าประกันสังคมสูงสุด 9,000 บาท แต่ในปีภาษี 2565 รัฐบาลมีการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 ลง 2 ครั้ง ในรอบเดือน พ.ค. - ก.ค. และ ต.ค. - ธ.ค. เหลือเพียง 6,300 บาท

 

  • ขั้นตอนที่ 2 เทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

ต่อมาให้นำเงินได้สุทธิมาเทียบกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได โดยนำเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษีแต่ละขั้น เพื่อหาว่าเราต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ ตามสูตร

 

ภาษีที่ต้องจ่าย = (เงินได้สุทธิ - เงินได้สุทธิสูงสุดของขั้นก่อนหน้า) x อัตราภาษี + ภาษีขั้นบันไดก่อนหน้าสูงสุด

 

ตัวอย่าง วิธีคำนวณภาษี 2566

 

มีรายได้จากเงินเดือน 50,000 บาท รวมทั้งปี 600,000 บาท จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าลดหย่อนจากประกันสังคม 6,300 บาท

 

จะได้เงินได้สุทธิ 600,000 - 100,000 - 60,000 - 6,300 = 433,700 บาท จากนั้นให้นำเงินได้สุทธิ 433,700 บาท ไปเทียบอัตราภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งจะอยู่ระหว่างฐาน 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%

 

ดังนั้น จากตัวอย่าง จะต้องเสียภาษี (433,700 - 300,000) 10% + 7,500 = 20,870 บาท

 

คลิกอ่าน วิธีลดหย่อนภาษี

คลิก โปรแกรมคำนวณภาษี 2566

 

หากคำนวณภาษี และยื่นภาษีเสร็จสิ้นแล้ว มีเงินภาษีคืน หลังจากลดหย่อนภาษีแล้ว อยากตรวจสอบการขอคืนภาษีมีขั้นตอนอย่างไร ทำตามนี้

 

ตรวจสอบ ขอคืนภาษี 2566

 

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร คลิกที่นี่
  2. คลิกที่สอบถามการคืนภาษี (E-Refund)
  3. กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ชื่อผู้เสียภาษี (แบบไม่ต้องระบุคำนำหน้า), ชื่อสกุล (นามสกุล) และคลิกสอบถาม
  4. เช็คสถานะการสอบถามข้อมูลของเงินคืนภาษี
  5. ช่องทางการรับคืนเงินภาษี

 

ช่องทางรับเงินคืนภาษี

 

  • พร้อมเพย์ที่ผูกกับบัญชีธนาคารออนไลน์, 
  • รับเงินคืนภาษีเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย หรือ ธ.ก.ส.,
  • รับเงินคืนภาษีเข้าบัตร e-Money หรือ e-Wallet (แอปฯ เป๋าตัง) เฉพาะธนาคารกรุงไทย 

 

สำหรับ การยื่นภาษีออนไลน์ 2566 กรมสรรพากร กำหนดไว้ยื่นภาษี ภายในวันที่ 10 เม.ย. 2566

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ