“อภิวันท์”ยันต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรบ. | คมชัดลึก

(1เม.ย.) ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจการทำงานหน้าที่ของตนเอง ว่า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นสิทธิโดยชอบธรรม เมื่อถามมาตนก็ตอบไปตามข้อเท็จจริงถึงเหตุผลที่ไปทำงานภาคการเมือง เพราะตนไม่สามารถเข้าทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีทหารมาปิดล้อม และบอกไปว่าหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถอนกำลังทหาร ตำรวจ ออกจากรัฐสภาตนก็จะกลับเข้ามาทำงาน และเมื่อนายกฯถอน ตนก็หยุด

 เมื่อถามถึงข้อสรุปของพรรคเพื่อไทยที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พ.อ. อภิวันท์ กล่าวว่า การ ยื่นอภิปรายถึงอย่างไรก็ต้องยื่น ส่วนจะเป็นวันใดตนไม่ทราบ

 ต่อข้อถามว่าเหตุใดข้อเสนอของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะขัดกับแนวทางของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.อ. อภิวันท์ กล่าวว่า ทั้ง สองคนเป็นละคนกลุ่มกัน ความคิดเห็นอาจแตกต่างกันบ้างเป็นธรรมดา

 เมื่อถามว่าความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องจะทำให้การเคลื่อนไหวคุมเกมของรัฐบาล มีปัญหา พ.อ. อภิวันท์ กล่าวย้ำว่า ก็อาจไม่สอดคล้องเพราะเป็นคนละกลุ่มกัน

 เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะยื่นญัตติในวันที่ 19 เม.ย. นี้ พ.อ. อภิวันท์ กล่าวว่า ถ้า โดยหลักการก็ต้องยื่นก่อนสิ้นเดือนมี.ค. เพราะ ยังมีเวลาของสภาในเดือนพ.ค. ถ้ายื่นเม.ย.ก็ยื่นได้กลางเดือน พ.ค.

 เมื่อถามว่าถ้ายื่นญัตติไปแล้วจะเป็นตัวช่วยให้นายกฯ ไม่ต้องยุบสภาใช่หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นคนละเรื่องกัน การเมืองภาคประชาชนก็เคลื่อนไหวของเขาไป แต่เมื่อยื่นอภิปรายไปแล้วก็ไม่สามารถยุบสภาในช่วงนั้นได้

 เมื่อถามว่าต้องดูความชัดเจนการเมืองนอกสภาก่อนหรือไม่ จึงจะยื่นญัตติอภิปราย พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อพร้อมและเห็นว่าระยะเวลาเหมาะสมก็ยื่นได้เลย แต่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน เพื่อกำหนดตัวผู้อภิปราย

 เมื่อ ถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวคนละทิศทางสะท้อนให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคน เสื้อแดงไม่มีเอกภาพในการทำงานใช่หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนยืนยันไปแล้วว่าเป็นคนละกลุ่มกัน ความคิดเห็นที่ต่างกัน แต่ถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างไรก็ต้องเอาอย่างนั้น

 เมื่อถามถึงกรณีที่ตำรวจออกมาระบุว่าเตรียมทหารรุ่น 9 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวชุมนุมของคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนได้อ่านจากหนังสือพิมพ์และเห็นมีชื่อปรากฏเป็น พล.อ. วอ ท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดิน และเห็นว่าโดยบุคลิกของ พล.อ.ท่านนี้เป็นคนที่มีเหตุผล ไม่รุนแรง เพราะท่านเป็นรุ่นน้องของตนเอง ซึ่งบางคนอาจคิดว่า พล.อ.ท่านนี้มีความเกี่ยวโยงกับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ตน ยืนยันได้ว่านายทหารท่านนี้มีความคิดเห็นที่เป็นประชาธิปไตย

 เมื่อถามว่าการที่มีข่าวออกมาเปิดประเด็นเช่นนี้เพราะมีความต้องการที่จะ เชื่อมโยงไปถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คงไปวิจารณ์ไม่ได้ ต้องอยู่ที่คนเปิดประเด็น เพราะแม้แต่ตัวของตนก็ยังถูกโจมตีเช่นกันจากสื่อของรัฐ ว่า ตนเป็นหนึ่งในขบวน การล้มเจ้า แต่ยอมรับว่าตนพยายามจะล้มอำมาตย์จริง ซึ่งตนได้เรียนไปแล้วว่าอำมาตย์ทำให้สถาบันของเราเสียหาย ซึ่งประธานองคมนตรีก็รับทราบของท่าน หรือท่านคิดว่าบ้านเมืองตัดสินโดยระบอบอำมาตย์ กำกับดูแลโดยทหารแล้วบ้านเมืองจะพัฒนาได้เร็ว ตรงกันข้ามกับตนที่เห็นว่าบ้านเมืองควรจะเป็นประชาธิปไตย สถาบันจึงจะมั่นคง ซึ่งเป็นความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายที่รักชาติและรักสถาบันเหมือนกัน เพียงแต่แนวคิดแตกต่างกัน

 เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่จะไม่มีการเจรจาในรอบ 3 พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการด้านสันติระบุว่า การเจรจาในการระงับข้อขัดแย้งจะไม่เจรจาเปิดเผย เพราะถ้าเปิดเผยก็จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ส่วนจะเจรจาอย่างไรตนไม่ทราบ เพราะไม่มีใครเชิญหรือเรียกไปเจรจา ถ้าเป็นไปได้ก็คงต้องคุยทางลับ ส่วนใครจะคุยกับใครถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 เมื่อถามถึงข่าวลือที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษถูกลอบยิง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขณะนี้ข่าวลือเยอะ แต่ไม่ใช่จากทางนี้ปล่อย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะท่านก็ยังอยู่ ตนอยากบอกว่าท่านอย่าเพิ่งเสียชีวิตเสียก่อน เพราะท่านเป็นตัวหลักหนึ่งในการแก้ปัญหาของบ้านเมือง ถ้าท่านรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง และบ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตย และความเป็นธรรม ก็ไม่ต้องเจรจา

 เมื่อถามว่า คิดว่าพล.อ. เปรม ควรเป็นตัวหลักในการเจรจาใช่หรือไม่ พ.อ. อภิวันท์กล่าวว่า “ ก็เพราะท่านเป็นเจ้าของอำนาจตัวจริง ถ้าจะเจรจากับผมก็ได้ ”

 เมื่อถามว่า ถ้าเจรจากับคนอื่นที่ไม่ใช่พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ไม่มีอำนาจเต็มเหมือนกัน รองประธานสภา กล่าวว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่สามารถเจรจาได้ เพราะเป็นคนที่มีส่วนได้เสีย ดังนั้นต้องเอาคนกลางๆ รับฟังเหตุผลมาเป็นคู่เจรจา ซึ่งตนรับฟังได้ ถ้าจะด่าก็ด่า ก็จะอธิบายให้ฟังด้วยเหตุผล

 เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยพยายามติดต่อขอเจรจากับ พล.อ. เปรม หรือไม่ พ.อ. อภิวันท์ กล่าวว่า ก็พยายามหลายครั้ง โดยติดต่อผ่านนายทหารคนสนิท แต่ พล.อ. เปรม ไม่รับ