ข่าว

เตือน 'ศักดิ์สยาม' - 'ประยุทธ์' คิดให้ดี ก่อนดัน 'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' เข้า ครม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'รถไฟฟ้าสายสีส้ม' เขย่า 'ศักดิ์สยาม' - 'ประยุทธ์' ส่วนต่างราคา หลายหมื่นล้าน อาจมีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลและจริยธรรม

 

ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ถามกระทรวงคมนาคมถึงหัวหน้ารัฐบาล มีจริยธรรมหรือไม่ หากดันรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้า ครม.

 

เฟซบุ๊กของ วทันยา บุนนาค  ประธานคณะทำงานนวัตกรรมฯ ตั้งคำถามถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหัวหน้ารัฐบาล มีเนื้อหาว่า หลังศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา ยกฟ้อง คดีแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินเอกสารคัดเลือกเอกชน ในการประกวดราคาครั้งที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด(มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย( รฟม. ) ทำให้เอกชนผู้ซื้อเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย

 

 

ศาลฯ วิเคราะห์ว่า ผู้ถูกฟ้องคดี คือ คณะกรรมการ ม.36 และ รฟม. มีอำนาจในการดำเนินการตามกฎหมาย สะท้อนว่าคำชี้ขาดครั้งนี้ อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับการประมูลโครงการภาครัฐอื่นๆ สามารถใช้อำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การประมูลได้ตามใจชอบ แม้จะอยู่ในช่วงระหว่างเกมการแข่งขัน สร้างความเสียเปรียบได้เปรียบ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ และอาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ

 

 เฉกเช่น ส่วนต่าง 68,612.53 ล้านบาท ในโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระหว่างการประมูลรอบแรก ที่บีทีเอสซี ขอรัฐสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาสุทธิ รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตะวันตก ที่ 9,675.42 ล้านบาท(ถูกล้มประมูลออกไป) ในขณะที่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM เอกชนที่ชนะการประมูล (ประมูลรอบที่สอง) เสนอขอรัฐสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาสุทธิจำนวน 78,287.95 ล้านบาท

 

หลายฝ่ายมองว่ารัฐอาจเสียงบประมาณมหาศาล จึงทำให้สังคม นักวิชาการ นักการเมือง ต่างจี้ให้ นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลหน่วยงานประมูลโครงการสายสีส้ม และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้ารัฐบาล ตรวจสอบให้สังคมสิ้นสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากล ทั้งเรื่อง เงินส่วนต่าง และเงินทอน  รวมถึงต้องชะลอการนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติผลการประมูลและลงนามในสัญญาร่วมลงทุน  ไม่เช่นนั้นแล้ว นอกจากรัฐจะเสียงบประมาณจำนวนมากแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่จะมีส่วนรับภาระกับความไม่โปร่งใส จากกลุ่มคนเพียงไม่กี่รายในครั้งนี้ด้วย

 

 

แต่มีการคาดการณ์ว่ากระทรวงคมนาคม จะผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้า ครม. ก่อนยุบสภาหรือให้ทันในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้อาจจะได้ยินนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โต้กลับว่าต้องยึดคำสั่งศาลปกครองถึงที่สุด

 

ล่าสุดเมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ฝั่งรัฐเป็นฝ่ายชนะคดีนัดแรก(รื้อเกณฑ์ประมูลระหว่างแข่งขัน)  ทันก่อนยุบสภา หรือก่อนหมดวาระการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลชุดนี้ จึงขอตั้งคำถามถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่า เมื่อเห็นเส้นทางการประมูลสายสีส้มไม่ชอบมาพากลในครั้งนี้ สมควร ผลักดันให้ไปต่อหรือไม่

 

หากผู้นำรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นความผิดปกติแล้วยังเห็นควรผลักดันเห็นชอบโครงการบนความเจ็บปวดของประชาชนต่อไปหรือไม่ ที่สำคัญรัฐบาลนี้รู้อยู่แล้วว่าไม่ถึง 70 วันจะมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เรื่องที่เป็นนโยบายหลัก หรือเรื่องที่สังคมยังตั้งข้อกังขาหรือไม่สิ้นสุดความสงสัย จากหลายองค์กรทั้งภาคีต่อต้านคอรัปชัน สื่อ ประชาชน โดยสปิริต จรรยาบรรณ จริยธรรม หรือหลักการบริหารที่ดี ที่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรมเป็นที่ตั้ง ควรหรือไม่ที่นายนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้จะดันทุรังพิจารณารถไฟฟ้าสายสีส้ม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ