รวบอดีต"ทนาย" สร้างโปรไฟล์แอปหาคู่ภาพหนุ่มหล่อ สุดหรู ลวงสาวสูบเงินหมดตัว

4 ก.พ.2566  นายพงศกร (สงวนนามสกุล) อดีตทนายความ หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ถูกตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ นำกำลังร่วมกับตำรวจสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล บุกจับกุมตัวได้ บริเวณริมถนนสุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยขณะเข้าจับกุมนายพงศกร อ้างว่าไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและยืนยันแล้วว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง 

 

สำหรับการเข้าจับกุมสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีบุคคลที่แอบอ้างเป็น นพ.ทอม หรือ TOM หรือสร้างตัวตนปลอมในแอปพลิเคชันหาคู่แอปหนึ่ง โดยมีการใช้ภาพชายหนุ่มหน้าตาดี หลอกลวงหญิงสาวให้ลงทุนเงินตราต่างประเทศสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท และยังบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ 

 

 

 

 

หลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาไปค้นภายในห้องพักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรปราการ  สามารถตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พบภาพที่ถูกนำไปใช้แบล็คเมลล์ผู้เสียหาย สมุด 6 เล่ม ใช้บันทึกลักษณะนิสัยของเหยื่อ บัตรเอทีเอ็ม  12 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม ซิมโทรศัพท์มือถือ และเอกสารการทำธุรกรรมจำนวนมาก

 

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาจะสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ แชทสนทนากับหญิงสาว โดยเลือกเหยื่อลักษณะชอบทำบุญ ช่วยเหลือผู้คน โดยคนร้ายแสดงตนว่าพวกสายบุญ เพื่อให้ผู้เสียหายหลงรัก แล้วแต่งเรื่องหลอกผู้เสียหายว่าหลอกให้ฝ่ายหญิงยินยอมมีความสัมพันธ์ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อช่วงเดือนมกราคม มีการนัดหญิงสาวที่โรงแรมย่านสมุทรปราการ จำนวน 4 ครั้ง

 

 

 

 

จากนั้นผู้ต้องหาจะเริ่มให้ผู้เสียหายลงทุน Money Exchange หลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายนำเงินมาโอนให้กับคนร้ายอีกรวมความเสียหายทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท  

 

 

 

 

จากการสอบปากคำ นายพงศกร ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าผู้เสียหายเป็นฝ่ายยินยอม ไม่ได้ฉ้อโกง แต่เป็นการขอยืมเงิน อ้างว่ายังติดหนี้ผู้เสียหาย 500,000 บาท แต่นำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดแล้ว จึงไม่มีคืน 

 

ส่วนภาพผู้เสียหายที่พบนั้นเป็นการแลกกันโดยเต็มใจทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันว่า ไม่มีการแบล็คเมลล์ แต่อย่างใด ส่วนคดีอื่น ๆ ที่ยังค้างนั้นตนเองไม่ทราบ

 

 

 

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบประวัตินายพงศกร เคยเป็นอดีตทนายความ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี แต่ถูกถอนใบอนุญาต เนื่องจากเข้าไปพัวพันกับเรื่องผิดกฏหมาย และยังมีอีก 2 หมายจับจากการก่อเหตุมา 6 คดี ทั้งการลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และความผิด ตาม พ.ร.บ.เช็ค ในพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรปราการ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน สน.สมเด็จเจ้าพระยา

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ฉ้อโกง/  นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” ก่อนควบคุมตัว นายพงศกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนหมายจับอีก 2 หมาย ได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.แม่ปิง ทำเรื่องอายัดตัวต่อไป